พาลุยเจแปนแอลป์ฝั่งเหนือ ( Northern Area of Japan Alps) หน้าร้อนญี่ปุ่นครั้งหน้า ต้องไม่พลาด!!

กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับทุกคน มีใครชอบหนีร้อนไปขึ้นเขาแบบผมรึเปล่า เพราะรอบนี้ผมจะมาพาเพื่อนๆหนีอากาศร้อนๆในฤดูร้อนของญี่ปุ่น (บางที่ร้อนได้มากกว่า 40 องศา!! 🥵 ร้อนจนมีประกาศบอกว่าเปิดแอร์นอนกันด้วยนะ เดี๋ยวจะร้อนตายกัน) ไปลุยกันที่ เจแปนแอลป์ฝั่งเหนือ ( Northern Area of Japan Alps) มันอยู่ที่ไหน ไปยังไง ตามผมมาเลยครับ

เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน หนึ่งกิจกรรมที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทำกันก็คือการปีนเขา เนื่องจากในหน้าหนาวนั้นภูเขาส่วนใหญ่ก็จะมีหิมะตกปกคลุม บางที่ก็ปิดไปเลย เพราะว่าอันตราย บางที่ก็สามารถที่จะไปปีนได้ แต่ก็อาจจะต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อนครับ และพอพูดถึงการปีนเขาที่ประเทศญี่ปุ่น ภูเขาแรกที่คนไทยจะนึกถึงนั้นก็คือภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดกันซะเยอะ แต่สำหรับผมแล้วรู้สึกว่าฟูจิไม่ค่อยน่าปีนเท่าไหร่ เพราะวิวข้างทางไม่ค่อยสวย ขอไปนอนโรงแรมที่ทะเลสาบทั้ง 5 แล้วดูฟูจิจากที่ไกลๆดีกว่าครับ ไม่เหนื่อยด้วย

ในครั้งนี้เลยจะมาพาเพื่อนๆไปเที่ยว เจแปนแอลป์ กัน2ที่ ที่จังหวัดนากาโนะ และ โทยามะ ที่มีเทือกเขาที่ได้รับฉายาสวิสเซอร์แลนด์ของประเทศญี่ปุ่น ส่วนตัวผมเองยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวสวิสจริงๆซักที เลยไม่มั่นใจว่าจะเหมือนซักแค่ไหน ถ้าเพื่อนๆคนไหนเคยไปแล้ว เหมือนไม่เหมือนยังไง มาคุยกันได้นะครับ

โดยฝั่งนากาโนะจะไปกันที่ Happo One (ฮัปโป้ โอเนะ) ส่วนโทยามะจะไปที่ Tateyama Murodo Daira (ทาเทยามะ มุโรโด ไดระ) ครับ

โดยทั้ง2ที่ ที่ผมจะไปมีจุดหมายปลายทางหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ

Happo One : Happo Ike

Tateyama Murodo Daira : Mikuriga-Ike

การเดินทาง

Happo One

ขอตัดมาเริ่มที่สถานี Hakuba กันเลยนะครับ

เดิน(30นาที 1.7กม)หรือนั่งบัสมาลงที่ Happo Bus terminal 

ตรงสี่แยกมี lawson ถ้าให้เสบียงไม่พร้อมมาเติมกันที่นี่ได้ครับ (ส่วนคนที่มาด้วยบัสกลางคืน ในวันที่ผมมานั้น lawson ยังไม่เปิดให้บริการ 😭 มาเช้าเกิน)

จากนั้นเดินประมาณ 1 กม. ไปยัง Happo Gondola 

หลังจากขึ้นกอนโดลา แล้วเราก็จะต้องขึ้นลิฟท์อีก 2 รอบ สถานีลิฟท์ก็อยุ่ติดกันเลยครับ ขึ้นไปเป็นชั้นๆ ไม่ต้องเดินไกล

สำหรับคนที่เคยมาเล่นสกีแล้วละก็ คงคุ้นเคยกันดี ส่วนคนที่ยังไม่เคยขึ้นลิฟท์แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวนะครับเพราะระยะห่างจากพื้นนั้นไม่สูงเท่าไหร่

หลังจากลงลิฟท์ที่ 1 แล้วก็จะมาถึงที่ Kurobishi Daira

ที่บริเวณนี้ก็มีบ่อน้ำเล็กๆ ให้ถ่ายรูปสะท้อนกับภูเขาอยุ่นิดนึงในระหว่างทางที่จะเดินไปขึ้น สกีลิฟท์ที่ 2 ครับ

วิวระหว่างขึ้นลิฟท์ก็สวยมากๆเลยครับไม่มีกระจกมากั้นด้วย

หลังจากลงลิฟท์ที่ 2 แล้วจากตรงนี้ก็จะต้องเดินเท้าขึ้นเขาแล้วละครับ

ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม. ก็จะมาถึง Happo Ike (บ่อน้ำฮัปโป้) จากตรงนี้สามารถที่จะเดินขึ้นไปที่ยอดเขา Karamatsu ได้ครับ ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชม. แต่รอบนี้ผมหยุดแค่ตรงนี้ครับ แล้วก็กลับทางเดิม

ขอเสริมว่าใกล้ใกล้กันนี้ก็มี ที่ที่เราสามารถเล่นพาราไกด์ได้ด้วย อยากลองเล่นมากแต่ยังไม่มีโอกาสสักที วันที่ไปก็ไม่กล้าจองไปก่อนเพราะว่าสภาพอากาศแย่มาก แต่วันจริงก็คืออากาศดีมากพอจะจองก็เต็มแล้วไม่ทันครับ

เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ : https://www.happo-one.jp/en/
เวลาเปิด-ปิด: แล้วแต่วัน เชคตารางกอนโดลาและลิฟท์ได้ที่ https://www.happo-one.jp/en/trekking/alpenline/
ช่วงเวลาที่ให้บริการ (ปี2021) : 5,6 มิ.ย. และ 12 มิ.ย. – 31 ต.ค.
ค่าบริการ: ตั๋วกอนโดลาและลิฟท์ไปกลับ 3,000 เยน
Google map:https://goo.gl/maps/fiDvNoBiQyFVaw7t8

—————————————————————————————————————–

Tateyama Murodo Daira

มาถึงฝั่งทาเทยามะกันนะครับ 

จากสถานีToyama นั่งรถไฟ ประมาณ 1ชม. ไปลงที่สถานี Tateyama

จากนั้นต้องเปลี่ยนมาขึ้น Cable Car ใช้เวลา ไม่นานประมาณ 20 นาที มาถึงสถานี Bijoudaira (美女平) แล้วก็ต้องเปลี่ยนมาขึ้นรถบัส นั่งกันต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะมาถึงสถานี Murodo Daira ครับ ในระหว่างนั่งรถบัสก็จะมีบรรยายเกี่ยวกับเส้นทางที่รถบัสวิ่ง ว่าทำไมถึงไม่สามารถที่จะใช้รถส่วนตัวได้ พร้อมอธิบายสิ่งที่รถผ่านเช่นต้นไม้หรือน้ำตก ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษครับ 

ระหว่างทางก็จะเห็นคนเดินตามทางเป็นระยะๆ เห็นแล้วยอมเลยครับ นั่งรถยังเป็นชั่วโมง

พอให้วิวนี้แล้วก็เตรียมตัวลงได้แล้วครับ ถ้าซูมดูในรูปก็จะเห็นคนตัวเล็กๆ เดินกันอยู่ที่สันเขาด้วยครับ เห็นแล้วอยากไปเดินบ้างเลย

หลังลงรถบัสแล้วออกมาจากอาคารก็จะเจอวิวนี้เลยครับ

ตรงบริเวณป้ายหินด้านขวาของรูป มีบริการถ่ายรูปฟรีด้วยครับ ให้กล้องของพนักงานก่อน แล้วจากนั้นใช้กล้องของเราถ่ายต่อได้ครับ แล้วเราก็จะได้รับรูปไซส์ L มาฟรี 1 ใบ แล้วถ้าอยากได้เพิ่มก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มได้ครับ

จากบริเวณนี้เดินไปอีกไม่นานไม่น่าถึง 10 นาที ก็จะถึง Mikuriga-Ike (บ่อน้ำมิคุริกะ) แล้วครับ

บริเวณตรงนี้ก็จะมีทางหลายทางให้เลือกเดินขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะไปที่จุดไหน มีหลายยอดให้เลือกเดิน

ที่พักด้านบนก็มีอยู่เยอะพอสมควร มีทั้งแบบบ้านพัก ออนเซ็น และ จุดกางเต้นท์ ถ้ามีเวลาพอคิดว่ามานอนที่นี่ซักคืนก็คือว่าน่าจะดีมากๆ เลยครับ ข้างบนนี้อากาศก็ดีมากประมาณ 20 องศา

สถานที่กางเต้นท์ Raichosawa Camping Ground 雷鳥沢キャンプ場 กว้างมาก พื้นเรียบด้วยครับ หาจุดกางได้ไม่ยากเลย

ที่นี่มีทางเดินที่เดินได้ง่าย เพราะทำทางเดินไว้ดีมาก สามารถใส่รองเท้าผ้าใบปกติมาได้เลยครับ

ถ้ามีโอกาสและเวลามากกว่านี้ จะขอมานอนที่นี่ซักคืน จะได้ไปเดินที่สันเขานี้ น่าจะสวยมากๆเลย

ขอปิดท้ายเทือกเขาทาเทยามะ ด้วยนกตัวนี้ ไรโช นกสายฟ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของที่ทาเทยามะนี้ ถ้ามีโอกาสได้มาที่นี่อย่าลืมมองหากันด้วยนะครับ หาที่อื่นไม่ได้แน่นอน

เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ) : https://www.alpen-route.com/en/เว็บไซต์ (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) : https://www.alpen-route.com/th/
เวลาเปิด-ปิด : 15 เมษายน – 30 พฤศจิกายน
วันหยุด : ปิดฤดูหนาว ตั้งแต่ ธันวาคม – เมษายน
ค่าบริการ : https://www.alpen-route.com/th/transport/fare.html ขึ้นอยู่กับว่าแพลนจะเป็นแบบไหน ไปกลับฝั่งเดียวกัน หรือว่าทะลุผ่านไปลงอีกด้านนึง
การเดินทาง : https://www.alpen-route.com/th/transport/opening.html

Google map : https://goo.gl/maps/zZLh3i8QDaZWds959

สรุป

จริงๆก็ เลือกไม่ได้นะครับว่าที่ไหนดีกว่า สวยมากๆเลยทั้งคู่ ถ้ามีโอกาสมาแล้ว แล้วมีเวลาก็ไปทั้งสองฝั่งเลยก็จะดีที่สุดครับ 

แต่ถ้าสมมุติต้องเลือกไปแค่ที่เดียวแล้วละก็ เอาความขี้เกียจมาตัดสินเลยครับ ถ้าขี้เกียจเดินเยอะก็ไปกันที่ฝั่งTateyama ถ้าอยากเหนื่อยก็มากันที่ฝั่ง Happo One กันครับ

หน้าร้อนหน้าก็ขอฝากเจแปนแอลป์ไว้ในอ้อมใจของเพื่อนๆกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ

พูดคุย แลกเปลี่ยน เรื่องที่เที่ยวและของกินกับผม ได้ที่

IG : bearcat.k
https://www.instagram.com/bearcat.k/