Camping งบหลักร้อยวิวหลักล้านหน้าภูเขาไฟฟูจิ
ท่องเที่ยวญี่ปุ่นรูปแบบใหม่ที่สายแคมป์ สายเอาท์ดอร์ต้องตกหลุมรัก! Camping หน้าภูเขาไฟฟูจิวิวสุดอลังการ กลางคืนหนาว -2 จะรอดมั้ยมาดูกัน! สวัสดีค่ะทุกคนเมื่อนึกถึงการท่องเที่ยวญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงการชอปปิง แช่ออนเซ็น เที่ยวศาลเจ้า ดูใบไม้เปลี่ยนสี กินปลาดิบ เนื้อย่าง ชาบูและอื่นๆอีกมากมาย แต่ความจริงแล้วยังมีการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกรูปแบบหนึ่งที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก แต่เราอยากจะแนะนำมากๆ นั่นก็คือ “การแคมป์ปิ้ง” นั่นเอง ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เป็นเหมือนสวรรค์สำหรับบรรดาแคมป์เปอร์เลยก็ว่าได้ (ไม่ได้โม้จริงๆนะ) เพราะนอกจากจะอากาศดี มีทิวทัศน์สวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลแล้ว ความปลอดภัยก็ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ การแคมป์ปิ้งจึงเป็นหนึ่งในฮอบบี้ยอดฮิตของคนญี่ปุ่น ทำให้ลานกางเต็นท์ดีๆมีมาตรฐานก็มีมากตามไปด้วย เราก็เป็นอีกคนที่ชอบการแคมป์ปิ้งม๊ากมาก และอยากให้แคมป์เปอร์ชาวไทยได้มาลองสัมผัสแคมป์ปิ้งที่ญี่ปุ่นบ้าง วันนี้เลยขอมาแนะนำลานกางเต็นท์ในงบหลักร้อยแต่วิวหลักล้าน แถมยังไม่ไกลจากโตเกียวให้ทุกคนรู้จักกันค่ะอ่านจบแล้วเชื่อว่าบรรดาแคมป์เปอร์ต้องรีบอยากแพ็คของไปแคมป์ปิ้งมันซะเดี๋ยวนี้เลยแน่นอน! ลานกางเต็นท์ที่เราจะแนะนำวันนี้ก็คือ “Mt. Fuji YMCA Global Eco Village” จังหวัดชิสึโอกะที่เราอยู่เองค่ะ ฟังจากชื่อแล้วแน่นอนว่าวิวหลักล้านที่โฆษณาไว้เมื่อกี้ก็คือวิวภูเขาไฟฟูจิอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ดูจากรูปข้างล่าง แค่ป้ายตรงแถวทางเข้าก็เห็นภูเขาไฟฟูจิแบบมหึมาแล้ว พอเช็คอิน ชำระเงินค่ากางเต็นท์คืนละประมาณ 800 บาท (ใช่แล้ว แค่คืนละ 800 บาทเท่านั้น!) เสร็จเราก็ขับรถเข้าไปยังจุดกางเต็นท์ที่เราพอใจได้เลย ที่ Mt. Fuji YMCA Global Eco Village จะเป็นลานกางเต็นท์แบบที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า Auto Camping ซึ่งก็คือลานกางเต็นท์ที่อนุญาตให้ขับรถเข้าไปยังจุดที่ต้องการกางเต็นท์ได้เลยเพื่อความสะดวกในการขนของ บางที่ก็อนุญาตให้จอดรถติดกับเต็นท์ได้เลย แต่ที่นี่อนุญาตให้จอดชั่วคราวเพื่อขนของเท่านั้น พอขนของเสร็จแล้วก็ต้องขับกลับไปจอดที่ลานจอดรถ เราไปทั้งหมด 3 วัน 2 คืน (ศ-อา) ตอนที่ไปถึงคือเช้าวันศุกร์ ไม่มีคนอื่นเลย เราก็เลยได้โลเคชั่นที่ดีมากๆในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีอะไรมากั้น! แบบในรูปเลย ตอนกางเต็นท์คือฟินมาก กรี๊ดคนเดียวในใจจนเหนื่อย ฮ่าๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง บ้านหลังน้อยของเราใน 3 วัน 2 คืนต่อจากนี้ก็เสร็จพร้อมให้เข้าอยู่แล้ว กางเต็นท์เสร็จก็เข้าโหมดชิล หลังจากนั่งเล่นนอนเล่นซักพักก็เริ่มหิว เลยจัดอาฟเตอร์นูนทีไปเบาๆด้วยคัสตาร์ดพุดดิ้งสตรอเบอร์รี่ พร้อมภูเขาไฟฟูจิเป็นแบ็คกราวด์ ขนมช่วยให้อิ่มท้อง วิวสวยๆช่วยให้อิ่มใจที่แท้จริง กินๆ นอนๆ จัดของไปจัดของมาก็ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์ยามเย็นอาบย้อมภูเขาไฟฟูจิเป็นสีแดงอ่อนๆ พร้อมกับอุณหภูมิที่เริ่มลดต่ำลง จึงได้เวลาก่อกองไฟที่เรารอคอย เสน่ห์อย่างหนึ่งของแคมป์ปิ้งที่เราชอบมากก็คือการก่อกองไฟนี่แหละ ได้ผิงไฟอุ่นๆ ฟังเสียงฟืนดังเปาะแปะพร้อมกับกลิ่นสโมคกี้หน่อยๆ เป็นช่วงเวลาที่สัมผัสถึงความสุขในความเรียบง่ายได้ดีมาก และแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็น เพื่อให้เข้ากับอากาศหนาวๆ มื้อเย็นวันนี้เราเตรียมจิ้มจุ่มมา (ถ้ามีหม้อดินด้วยนี่นึกว่ากลับไปนั่งกินที่ร้านข้างทางในกรุงเทพฯเลย) ถึงจะมาอยู่ญี่ปุ่นนานแค่ไหนแต่อาหารไทยก็อร่อยที่สุดในโลกอยู่ดีซดน้ำซุปรสแซ่บในคืนที่อากาศหนาว แค่คิดย้อนกลับไปก็ยังอร่อยอยู่เลย (เช็ดน้ำลาย) อีกอย่างที่หลายๆคนชอบถามคือ “เวลาอยู่ที่แคมป์ทำอะไร” นอกจากการกินซึ่งเป็นกิจกรรมพื้นฐานแล้ว เราชอบเอาหนังสือไปอ่าน ไม่ก็โหลดหนังไปดู ช่วงเวลาที่ชอบที่สุดก็คือตอนอ่านหนังสือพร้อมกับผิงไฟและดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆไปด้วยนี่แหละ ฟินอย่าบอกใคร และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชอบมากก็คือการดูดาว ที่ Mt. Fuji YMCA Global Eco Village ถ้าอากาศดีก็จะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิท่ามกลางดวงดาวด้วยนะ บอกแล้วว่าวิวหลักล้านจริงๆ (เราลืมเอาขาตั้งกล้องไป รูปก็จะเบลอนิดนึงแหะๆ) ตอนเราจะนอนอากาศประมาณ-2 องศาแต่เนื่องจากเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปดีมากเลยไม่หนาวเลย ตอนแรกก็แอบกลัวนิดๆเพราะไปคนเดียว และนอกจากเราแล้วก็มีกลุ่มอื่นอีกแค่กลุ่มเดียวที่กางเต็นท์ออกไปไกลพอสมควร แต่ที่ไหนได้ดันหลับรวดไม่ตื่นแม้แต่ครั้งเดียว ฮ่าๆ และด้วยความอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นเราเลยตื่นตั้งแต่ 5:30 พอเปิดเต็นท์ออกไปก็เจอวิวแบบในรูปเลย แสงอาทิตย์ยามเช้ากับภูเขาไฟฟูจิ มีเกล็ดน้ำค้างแข็งสีขาวอยู่ทั่วพื้น รอบๆตัวไม่มีใคร เงียบสงบเหมือนเหมาทั้งลานกางเต็นท์เลย บรรยากาศแบบนี้ในราคาคืนละ 800 บาท มีใครให้คุ้มกว่านี้อีกมั้ย! เดินเล่นรับวิตามินดียามเช้าซักหน่อย เจอน้องไก่ป่ากำลังวิ่งเล่นด้วยแต่ถ่ายรูปไม่ทัน น้ำค้างแข็งเกาะเต็นท์เยอะมาก ขอบคุณถุงนอนและอุปกรณ์กันหนาวต่างๆที่ช่วยให้เราอุ่นสบายตลอดคืน (ถ้าอยากสอบถามเพิ่มเติมเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้แคมป์ปิ้งสามารถติดต่อมาได้ตามที่อยู่ด้านล่างนะคะ) พอสายๆ ฟูจิซังก็เริ่มใส่หมวกเมฆใบจิ๋ว พร้อมกับแคมป์เปอร์คนอื่นที่เริ่มทยอยมากางเต็นท์ ความญี่ปุ๊นญี่ปุ่นอย่างหนึ่งคือทุกคนมารยาทดีมาก ไม่มีใครมากางเต็นท์ด้านหน้าเราเลยทั้งๆที่มีที่เหลือ ส่วนใหญ่จะหลบไปด้านข้างเพื่อที่จะได้ไม่บล็อกวิวคนที่มาก่อน นั่งชิลล์ไปซักพักเราก็กลับเข้าสู่กิจกรรมพื้นฐาน นั่นก็คือ…การกิน! มื้อเช้าควบมื้อกลางวันของเราในวันนี้ก็คือบาร์บีคิวนั่นเอง สไตล์ที่เราชอบคือเนื้อย่างนุ่มๆ กินกับสัปปะรด ฟักทองเห็ดหอมย่าง แล้วก็ข้าวโพดอบเนยกระเทียมเป็น side dish แค่นี้ก็ฟินมากๆแล้ว (เช็ดน้ำลายอีกรอบ) ถ้าซื้อเนื้อดีๆคืออร่อยไม่แพ้ไปกินยากินิขุที่ร้านเลย หลังของคาวก็ต่อด้วยของหวานและน้ำชา พร้อมชมวิวภูเขาไฟฟูจิไปด้วย วันนี้อากาศแจ่มใสมาก อุ่นสบายกำลังดี วันนั้นทั้งวันเราก็อ่านหนังสือ ดูหนัง ทำอาหาร ก่อกองไฟวนไปและนอนค้างอีก 1 คืน จนสายวันถัดไปก็เริ่มเก็บของขับรถกลับบ้าน เป็น 3 วัน 2 คืน ที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ในเวลาเดียวกันก็สบายใจเหมือนอยู่บ้านจริงๆ เชื่อว่าแคมป์เปอร์หลายคนต้องเคยรู้สึกแบบเดียวกันแน่ๆ และสำหรับเราความรู้สึกนี้นี่แหละที่ทำให้ถอนตัวถอนใจไปจากแคมป์ปิ้งไม่ได้ โดนตกเข้าเต็มเปาเลย อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆแคมป์เปอร์ต้องอยากมาลองแคมป์ปิ้งที่ญี่ปุ่นดูบ้างแหละ ถ้าใครเป็นสายแคมป์ปิ้งที่อยากลองเที่ยวญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่ๆหรืออยากลองแคมป์ที่ต่างประเทศ บอกเลยว่าไม่มีที่ไหนเหมาะจะเริ่มต้นเท่าที่ญี่ปุ่นอีกแล้ว! คิดดูว่าอากาศดี วิวดี คนดี อาหารอร่อย ความปลอดภัยสูง ไม่ไกลจากไทยมาก ครบขนาดนี้ต้องมาลองแล้วจริงๆ เพื่อนๆสายแคมป์ […]