บ้านชั้น2บนร้านดอกไม้

EP1. น้ำมันรั้วลงหลังคารถ

#เรื่องเล่าจากสะใภ้ร้านดอกไม้

สร้างร้านดอกไม้สาขาใหม่ || EP1. น้ำมันรั้วลงหลังคารถ🚐👉🏻

ก่อนอื่นขอปูพื้นเรื่องนิดนึงสำหรับท่านที่พึ่งเข้ามาอ่านนะคะ ธุรกิจของบ้านสามีที่ดำเนินกิจการมา 29 ปีในปีนี้คือร้านดอกไม้ ซึ่งร้านปัจจุบันย้ายจากที่เก่าซึ่งเคยอยู่ในซุปเปอร์มาก่อนได้ 10 ปีแล้ว หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เนื่องจากสึนามิครั้งใหญ่ สำหรับที่นี่เป็นอาคาร2ชั้นอยู่ริมถนน โดยเราเช่าเฉพาะชั้นล่างเพื่อเปิดเป็นร้านดอกไม้พร้อมที่จอดรถด้านข้างร้านสำหรับจอดรถ1คัน ส่วนชั้น 2 เจ้าของอาคารทำเป็นห้องเช่าเพื่อการอาศัย 1ห้อง โดยมีทางเข้าบ้านเพื่อขึ้นชั้น 2 แยกออกจากกันอย่างชัดเจนค่ะ👉🏻กิจการดำเนินมาอย่างราบรื่น

ซึ่งอาคารนี้ก็คงเริ่มเก่า ต้องได้รับการซ่อมแซมแล้ว

จนวันหนึ่งขณะที่สามีกำลังจะขึ้นรถไปส่งดอกไม้ ก็ได้กลิ่นเหม็นของน้ำมันซึ่งไม่แน่ใจว่ามาจากไหน ขณะนั้นต้องรีบไปยังที่หมายแล้วจึงไม่ได้สนใจหาแหล่งต้นตอของกลิ่นน้ำมัน ณ เวลานั้น จนกาลเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ จึงสังเกตเห็นว่าที่พื้นบริเวณที่จอดรถดังกล่าว มีคราบน้ำมันเลอะอยู่เป็นวงกว้าง เมื่อสังเกตรอบๆจึงเห็นว่าบริเวณพื้นชั้น 2 ก็มีรอยด่างเหมือนคราบน้ำมัน สามีจึงปีนไปดูหลังคารถเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันที่พื้นนั้นหยดลงมาจากพื้นชั้น2 เมื่อปีนไปดูจึงพบว่าหลังคารถได้รับความเสียหายเนื่องจากการหยดลงมาของน้ำมัน จึงได้ทำการติดต่อเจ้าของอาคารเพื่อเรียกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น👉🏻ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าของอาคารพร้อมผู้เช่าชั้น2ได้มาพูดคุยกับเรา จึงทราบว่าเป็นน้ำมันจากเครื่องทำความร้อน(ฮีตเตอร์)รั่วลงมา คาดว่าท่อส่งน้ำมันน่าจะรั่ว แต่กลับได้ขอสรุปจากทางเจ้าของอาคารว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้ไม่มีใครผิด ทั้งๆที่รถของเราเสียหายเนื่องจากสีของหลังคารถถูกกัดกร่อนจนด่าง เจ้าของบอกว่าถ้าคิดว่าเราผิด คุณต้องให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ว่า ความเสียหายนี้เกิดจากน้ำมันที่หยดจากข้างบนจริงๆ ไม่ใช่ว่าเสียหายอยู่แล้วและใช้โอกาสนี้มาเหมารวมแบบนี้‼️

รอยคราบน้ำมันที่หยดลงพื้น
ซึ่งเกิดจากการรั่วจากพื้นชั้น2ของอาคาร
แต่บริษัทที่ให้เราเช่ากลับปัดความรับผิดชอบ

👉🏻พวกเราค่อนข้างมั่นใจว่าความเสียหายนี้เกิดจากน้ำมันรั่ว เพราะตัวรถพึ่งซื้อมาได้เพียง1ปี จึงอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจ นำรถไปเข้าศูนย์เพื่อขอให้ตรวจสอบสาเหตุของความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมตีราคาค่าซ่อมรถ ผลออกมาว่าเกิดจากการกัดกร่อนของน้ำมัน ค่าซ่อม2แสนเยน หรือ6หมื่นกว่าบาท เราจึงนำหลักฐานไปให้ผู้เช่า ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ปล่อยเช่าอาคารหลายอาคาร แต่ช่วงหลังที่ลูกชายมารับช่วงต่อกิจการก็ได้ยินข่าวลือบ่อยว่า ดำเนินธุรกิจ การบริการไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก👉🏻เมื่อเขาได้รับเอกสารการพิสูจน์ ก็บอกว่าศูนย์รถบอกว่าน้ำมันเป็นเหตุ แต่อาจจะเป็นน้ำมันคนละตัวกับที่หยดลงพื้นก็ได้ จนป่านนี้เขาก็ยังไม่โอนค่าซ่อมรถให้ ทำให้พวกเราไม่ค่อยพอใจในการบอกปัดความรับผิดชอบในครั้งนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ก็เข้าลักษณะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเราเช่าเขาอยู่มาเป็นเวลานานแล้วและร้านเป็นที่รู้จักดีของลูกค้าที่อยู่อาศัยในย่านนี้ จึงยากต่อการตัดสินใจที่จะย้ายออกไปหาที่ใหม่ และไม่อยากโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเกรงว่าจะผิดใจกันจนอาจจะโดนไล่ออกจากที่นี่แทน😠แต่แล้วภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือนก็เกิดเหตุการณ์ใหม่ ที่ทำให้เราต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ โปรดติดตามอ่านตอนหน้านะคะ…