jpssimple

แน่นอนว่าละครสร้างจากโชโจมังงะชื่อยาวเรื่องนี้ หนีไม่พ้นต้องเป็นของความรักๆ กุ๊กกิ๊กๆ เรื่องนี้เหมาะกับสายโชโจมังงะอย่างเรา ที่ไม่อยากให้พลาดกัน เพราะดูสนุก ดูเพลิน ดูจิกหมอน

เป็นเรื่องราวของโอชิมะ นางิ อายุ 28 ปีทำงานให้กับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ในโตเกียว จริงๆเป็นคนผมหยิกมากๆ แต่เธอกลัวแฟนไม่ชอบเลยต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อวันเพื่อทำให้ผมตรง

ซีรีย์ สืบสวน สอบสวน / ฆาตกรรม เป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่ย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และในวันประชุมลูกบ้านครั้งแรกของนานะ(ภรรยา) ก็เกิดเหตุให้เล่นเกมส์“แลกเปลี่ยนฆากรรม”ขึ้น ซึ่งต่อมาสมาชิกที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้รวมทั้งคนที่ถูกเขียนชื่อในเกมส์ค่อยๆถูกฆ่าตายอย่างปริศนา จนจบไป10ตอนยังรู้ไม่ครบว่าใครเป็นคนฆ่า เป็นซีรีย์ที่พีคมากค่ะแล้วภาคต่อก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อยจนในที่สุดรู้ฆาตกรแบบลุ้นจนเหนื่อย สนุกมากจริงๆค่ะ ใครชอบแนวสืบสวนแบบโน ต้องดูให้ได้เลยค่ะ มันส์มาก.สามารถชมแบบมีซับได้ที่ภาค1https://daisukijdramaplus.com/dramas/anata-no-ban-desu/ ภาค2https://daisukijdramaplus.com/…/anata-no-ban-desu…/

ซีรีย์ญี่ปุ่น แนวสืบสวน สอบสวน อย่างที่เคยเกริ่นไปว่า ถึงจะเป็นลูกครึ่งแต่คุณแม่ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นเสียไปตั้งแต่เด็กๆ ทำให้โนเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นเองโดยดูซีรีย์เพื่อฝึกสำเนียง บริบท คำศัพท์ต่างๆค่ะ ส่วนตัวคิดว่าได้เรียนรู้มากกว่าในหนังสือ และนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ต่อไปนี้เลยตั้งใจว่าทุกๆวันเสาร์จะมาอัพซีรีย์ญี่ปุ่นแนะนำที่โนได้ดูจริงๆและคิดว่าสนุกน่าติดตามค่ะ จะทยอยอัพลงในอัลบั้มจะได้มาย้อนดูง่ายๆนะคะ 　　สัปดาห์นี้ขอแนะนำซีรีย์ที่พึ่งฉายจบไปหมาดๆในญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วชื่อテセウスの船หรือShip of Theseusแนวสืบสวนสอบสวนฉาย2020 เรื่องย่อ ::　　เป็นเรื่องเกี่ยวกับปริศนาฆาตกรรมคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี1989 ไม่เคยมีใครทราบตัวคนร้ายที่แท้จริงมาก่อน ทว่าวันหนึ่งคนที่รู้ความจริงทุกอย่างกลับเป็นลูกชายของฆาตกรเสียเอง โดยที่ตัวเขาจะกลับไปแก้ไขอดีตที่เกิดขึ้นเพื่อทวงคืนรอยยิ้มสู่ครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ลูกชายยังคงยืนหยัดพยายามที่จะเชื่อมั่นในตัวพ่อของเขาอย่างสุดหัวใจ ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นระหว่างสายสัมพันธ์ของพ่อลูกได้หรือไม่ อยากให้ลองติดตามกันดูค่ะ!!ลุ้นมากๆใครเป็นคนร้าย นักแสดงทาเคอุจิ เรียวมะ (竹内涼真) รับบทเป็น ทามุระ ชินซุซุกิ เรียวเฮย์ (鈴木 亮平) รับบทเป็น ซาโนะ บังโงอุเอโนะ จูริ (上野樹里) รับบทเป็น ทามุระ ยูกิCr.I love Japan สามารถชมแบบมีซับไทย(ยังแปลไม่ครบตอน)https://www.facebook.com/141211585911121/posts/3050383708327213/หากมีเพจไหนที่แปลครบทุกตอน รบกวนแชร์ด้วยค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีรีย์https://www.tbs.co.jp/theseusnofune/about/

สถานีริมทางญี่ปุ่น หากใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ววางแผนการท่องเที่ยวโดยใช้การเช่ารถขับเองตามต่างจังหวัด ก็อาจจะคุ้นเคยกับ道の駅 (Michi-no-Eki) หรือ “สถานีริมทาง”โดยเมื่อ 20 ปีก่อนสถานีริมทางทั้งหลายถูกสร้างขึ้นมาตามท้องถนนต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการจราจรบนถนนให้ปลอดภัยและสะดวกสบาย โดยให้แต่ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามภูมิภาคนั้น หากเปรียบให้เห็นภาพก็คงจะคล้ายจุดพักรถ ถ้าอยู่บนไฮเวย์หรือทางด่วนเหมือนบ้านเราจะเรียกว่า “Service area”(サービスエリア)นั่นเอง สถานีริมทางส่วนใหญ่จะอยู่ตามถนนนอกเมืองหรือชนบทเป็นหลัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องสุขา ที่จอดรถฟรีตลอด 24 ชั่วโมง บางพื้นที่มีโซนร้านอาหาร ลานที่ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่น อีกทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ จะนำผลิตผลของตนมาวางจำหน่าย ทำให้คนญี่ปุ่นเองหากไปท่องเที่ยวต่างเมืองก็มักจะแวะที่นี่เพื่อซื้อของฝากประจำถิ่น ถือเป็นระบบที่มีการพัฒนาท้องถิ่นและส่งเสริมให้ผู้คนได้มีปฏิสัมพันธ์กับภูมิภาคต่างๆ ประมาณสินค้าOTOPที่ไทย สถานีริมทางในญี่ปุ่นขณะนี้มีทั้งหมด 1,180 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสถานีริมทางแต่ละแห่งล้วนต้องการพัฒนาท้องถิ่นนั้นๆ มีการแบ่งประเภทตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่บริเวณนั้น โดยจะมีโมเดลหรือต้นแบบของสถานทีริมทางแบ่งออกเป็น4ประเภทหลักๆ ได้แก่ 1. โมเดลมาตรฐานสำหรับสถานีริมทางทั่วประเทศ : สำหรับโมเดลประเภทนี้เริ่มมีขึ้นเมื่อ10ปีก่อน โดยเป็นสถานีริมทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างเมือง เน้นการท่องเที่ยว ผลผลิตและการช่วยเหลือสังคมของเมืองเป็นหลัก 2. โมเดลธีมต่างๆ : เป็นสถานีริมทางที่ค่อนข้างได้ผลตอบรับดีจากนักท่องเที่ยวต่างๆ จึงเกิดเป็นโมเดลเฉพาะซึ่งจะมีการเชิญคนของสถานีริมทางที่ได้รับเป็นต้นแบบ ไปช่วยเป็นโค้ชเพื่อไกด์นำและพัฒนาสถานีริมทางอื่นๆ 3. โมเดลที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น : เป็นสถานีริมทางที่เน้นเรื่องการจัดการภายในได้เป็นอย่างดีและวางแผนการขายได้ดี 4. โมเดลที่อยู่ในขั้นพิจารณา […]

ร้านสะดวกซื้อ เช้าวันนั้นขณะที่พาน้องหมาไปเดินเล่นและผ่านร้านสะดวกซื้อmini stop ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ในเครือของAEON ขึ้นชื่อว่าขนมอร่อย จึงขอแวะไปสำรวจขนมใหม่ๆสักหน่อย ระหว่างที่ต่อคิวชำระเงินก็เหลือบไปเห็นตู้อบไอน้ำ โดยมีป้ายเขียนว่า ข้าวมันไก่ ตามภาษาคนไกลบ้านทำให้ตาลุกวาวและงงเล็กน้อยว่าทำไมข้าวมันไก่ถึงไปอยู่ตู้เดียวกับซาลาเปา เมื่ออ่านดีๆทำให้ทราบว่าเป็นข้าวมันไก่ในรูปแบบบ๊ะจ่างญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า “จิมะกิ” (ちまき) โดยเป็นการดัดแปลงบ๊ะจ่างให้ทานง่ายสไตล์อาหารที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ รสชาติไม่ค่อยเหมือนข้าวมันไก่ เพราะทำจากข้าวเหนียวเนื่องจากเป็นธรรมชาติของบ๊ะจ่าง แต่ถือว่ารสชาติโดยรวมสอบผ่าน จริงๆแล้ว ちまき “จิมากิ” ได้รับอิทธิพลมาจากขนมจ้าง(粽)ของประเทศจีน โดยที่ขนมจ้างจะมีทั้งรสหวานและรสเค็ม ซึ่งรสเค็มก็คือ “บ๊ะจ่าง”ที่ทุกท่านคุ้นเคยกันดี โดยคำว่า “จ้าง” น่าจะยืมสำเนียงฮกเกี้ยน แต่ “บ๊ะจ่าง” (ขนมจ้างใส่เนื้อหมู) กลับเป็นคำยืมจากสำเนียงแต้จิ๋วค่ะ ส่วนคนญี่ปุ่นจะเรียกบ๊ะจ่างว่า “จิมากิจีน” 中華粽 หรือจูกะจิมากิ ค่ะ คุณยายเล่าว่าจิมากิเป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวห่อด้วยใบไผ่ คล้ายกับขนมเทียนของบ้านเรา คนโอซาก้าและจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งภูมิภาคทางตะวันตกของญี่ปุ่นจะรับประทานกันในวันเด็กผู้ชายโดยมีความเชื่อว่าใบไผ่จะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากชีวิต ในอีกแง่คือถ้าลองสังเกตรูปทรงแล้วจะคล้ายรูปร่างช้างน้อยของเด็กผู้ชาย เลยถือเป็นการอวยพรให้ร่างกายโตไวๆอย่างแข็งแรง ทั้งนี้ทั้งนั้นจิมากิที่โนซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ เป็นการดัดแปลงให้ทานได้ง่าย แต่ไม่ใช่การห่อแบบดั้งเดิมค่ะ

ท่องเที่ยวญี่ปุ่น นีงาตะ เมืองโทคะมะจิ เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนีงาตะ อยู่ห่างจากโตเกียวโดยนั่งรถไฟชินคันเซ็นประมาณ 2 ชั่วโมง หากขับรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมง และอยู่ห่างจากเมืองเอจิโกะยูซะวะที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นสกีโดยนั่งรถไฟธรรมดาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่หิมะตกเยอะที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูหนาวหิมะจะกองสูงถึง2-3เมตร เรียกได้ว่าต้องเปลี่ยนทางเข้า-ออกบ้านจากหน้าต่างชั้น 2 กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยว Unseen หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นความงามของป่าต้นบีชญี่ปุ่น นาขั้นบันได เป็นแหล่งผลิตกิโมโนอันโด่งดัง และยังถือว่าเป็นเมืองแห่งงานอาร์ต ที่เรียกกันว่า Echigo-Tsumari Art Field Echigo-Tsumari Art Field เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะรูปแบบใหม่ ทั้งที่ตั้งอยู่ในและนอกอาคาร กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองโทคะมะจิ (Tokamachi) และเมืองทสึนัน (Tsunan) ในจังหวัดนีงาตะ (Niigata) ครอบคลุมพื้นที่กว่า 760 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันมีผลงานที่จัดแสดงอยู่ทั้งสิ้น 235 ผลงาน จากศิลปินชาวญี่ปุ่นและนานาชาติ ซึ่งงานศิลปะส่วนใหญ่นั้นล้วนออกแบบให้กลมกลืนไปกับภูมิประเทศที่มีหิมะตกหนักในช่วงฤดูหนาว และความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ดังจะเห็นได้จากผลงานบางชิ้นที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ตามริมถนน หรือในหมู่บ้าน Echigo-Tsumari Art […]

เข้าครัวกับแม่บ้านญี่ปุ่น หากเรารับประทานผักผลไม้ตามฤดูกาลนั้นๆ นอกจากราคาที่สมเหตุสมผลแล้วเราจะได้ทานรสชาติที่ดีที่สุดของผักผลไม้ชนิดนั้นๆ สำหรับช่วงฤดูหนาวนี้ผักที่มีหัวอยู่ใต้ดินนั้นรสชาติจะหวานอร่อยกว่าฤดูอื่นๆ เนื่องจากการปรับตัวของผักให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมนั้นๆ กล่าวคือผักจำพวกนี้จะมีส่วนปีะกอบของน้ำมากกว่า90เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้ำมีจุดเยือกแข็งอยู่ที่0องศาเซลเซียส ดังนั้นในฤดูหนาวที่อุณหภูมิช่วงกลางคืนต่ำกว่า0องศาเซลเซียส จะทำให้น้ำที่อยู่ในเซลล์ผักแข็งตัวทำให้พืชเสียหาย พวกมันเลยปรับตัวโดยเปลี่ยนแป้งที่สะสมอยู่ในเซลล์ให้กลายเป็นน้ำตาล เพราะน้ำตาลมีจุดเยือกแข็งต่ำกว่าน้ำ เซลล์ผักที่อยู่ใต้ดินจึงไม่ถูกทำลาย เมื่อเรานำมาบริโภคจึงเป็นเหตุให้รู้สึกได้ว่าผักเหล่านี้มีรสชาติหวานอร่อยกว่าฤดูอื่น วันนี้จึงอยากนำเสนอเมนูสุขภาพโดยใช้หัวไชเท้าตามฤดูกาลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นั่นคือเมนู “ต้มหัวไชเท้ากับเต้าหู้ทอดใส่เอ็นเนื้อวัว • 大根と厚揚げの煮物 ” เนื่องจากวิธีทำและวัตถุดิบไม่ได้ซับซ้อนมาก หากมีโอกาสลองทำดูนะคะ วัตถุดิบ(สำหรับ4คน)• สาหร่ายคอมบุประมาณ 5 เซน 4-5 แผ่น• เต้าหู้ทอด 2 ชิ้น• หัวไชเท้า 1/2 หัว• เอ็นเนื้อต้มสุก 200 กรัม• ผงซุปสต็อกปลา 4 กรัม• น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ• โชยุ 1 กระบวย• มิริน 1 กระบวย วิธีทำ①นำเต้าหู้ทอดไปลวกน้ำร้อน ให้น้ำมันที่เกาะอยู่ออกไปก่อน ②หั่นเต้าหู้ทอดและหัวไชเท้าเป็นชิ้นพอดีคำ เพื่อให้สุกพร้อมกัน ③นำสาหร่ายคอมบุใส่ลงหม้อพร้อมน้ำ500มล. โดยใช้ไฟปานกลางต้มจนเดือด ④ใส่เอ็นเนื้อและหัวไชเท้าลงไปใน③ […]

เมื่อวันที่1กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นวันSoft Openingของร้านMakotoya ซึ่งเป็นร้านอิซากะยะ (ร้านแนวนั่งดื่มพร้อมกับแกล้ม)ในเมืองคิตาคะมิ จ.อิวาเตะที่เราอยู่ โดยสาขานี้เป็นสาขาที่2 ส่วนสาขาแรกอยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่ที่ต้องเปิดร้านใหม่เพิ่มเพราะยอดขายดี

เรื่องเล่าจากสะใภ้ร้านดอกไม้ บ่ายวันอังคารกับออเดอร์ดอกไม้ที่ลูกสาวส่งให้คุณแม่ที่อยู่คนละจังหวัด ลูกสาวอยู่โตเกียวส่วนคุณแม่อยู่โอซาก้า หากนั่งรถไฟชินคันเซ็นความเร็วสูงใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมง แต่ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นไวรัสโควิด-19 มาอีกระลอกแล้ว ทำให้ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาลูกสาวเลยไม่ได้กลับไปหาคุณแม่เหมือนทุกปี ทำให้ปีนี้แทบไม่ได้พบกันจึงสั่งดอกไม้จากทางเว็บไซต์ของร้านแม่สามี เพื่อส่งไปให้เนื่องในโอกาสวันเกิดของคุณแม่ในวันพรุ่งนี้ โจทย์ที่ลูกสาวต้องการคือ ขอเป็นดอกไม้โทนสีวิตามินซี มีความสดใส และดูอบอุ่น ปกติคุณแม่เป็นคนใจเป็นคนรักดอกไม้ ทางร้านสามารถเลือกจัดดอกไม้ได้ตามความเหมาะสม คุณแม่สามีตอบโจทย์ในครั้งนี้โดยใช้ดอกกุหลาบสีส้มและดอกฟรีเซียสีเหลืองเป็นตัวแทนของวิตามินซี ดอกกุหลาบสีส้มซึ่งเป็นดอกไม้หลักของการจัดในครั้งนี้ ยังสื่อถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเองของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่นและยังบ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา ส่วนดอกไม้รองใช้ดอกคาร์เนชั่นและดอกสต๊อกโทนสีชมพูอ่อนเพื่อให้ดูนุ่มนวลสบายตา เหตุผลที่ดอกแซมในครั้งนี้ใช้เป็นดอกคริสต์มาสบุชสีแดงเล็กๆผสมใบน้ำนมราชสีห์ โดยไม่ได้ใช้ดอกยิปโซ หรือดอกสุ่ยเหมือนการจัดทั่วไป เพราะจะทำให้การจัดออกมาค่อนข้างหวานเกินสำหรับผู้รับ ปิดท้ายด้วยกระดาษห่อฐานเป็นสีส้มตุ่นๆให้ภาพรวมของดอกไม้ครั้งนี้เหมาะสมกับผู้ใหญ่และเป็นสีค่อนข้างสุภาพ