สวัสดีครับเพื่อนๆในวันนี้ผมจะพาขึ้นเขาแบบไม่ต้องเดินเยอะ!! เพราะว่าเราจะนั่งรถบัสไปลงที่ป้ายรถบัสที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ป้ายนี้สูงแค่ไหน ป้ายนี้ไปยังไง ป้ายนี้มีอะไร ตามผมมาดูกันได้เลยครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/JPEG-image-0B6E32FDCC25-1-1024x683.jpeg)
ป้ายนี้อยู่ที่ไหน : ภูเขาโนริคุระ, จังหวัดนากาโนะ (Mount Norikura, 乗鞍岳)
ป้ายนี้ชื่ออะไร : 標高2716メートル (Hyōkō 2716 mētoru) แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “เหนือระดับน้ำทะเล 2716 เมตร”
ป้ายนี้สูงแค่ไหน : ตามชื่อป้ายเลยครับ 2716 เมตร สูงกว่าชั้นห้าของภูเขาไฟฟูจิ (2400 เมตร) อยู่ประมาณ 300 เมตร และถ้าเทียบกับตึกใบหยกของไทยที่สูง 304 เมตร ก็คือเอามาซ้อนกันขึ้นไปถึง 9 ชั้น เลยทีเดียว
แล้วเราจะขึ้นมาที่ความสูงระดับนี้กันทำไม มาเที่ยวไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
ขอเริ่มกันด้วยการเดินทางกันก่อนเลยแล้วกัน : ที่นี่นั้นมาได้จากสองทาง คือทางมามัตสึโมโต้ มาที่ Norikura Kogen แล้วขึ้นมาทาง Echo Line ที่ผมมา กับ จากทาง Takayama ทาง Sky Line ครับ
จากสถานีมัตสึโมโต้
- นั่งรถไฟจาก มัตสึโมโต้ ไปลง สถานีชินชิมะชิมะ (34 นาที)
- นั่งรถบัสจาก ชินชิมะชิมะ ไปลง บริเวณ Norikura Kogen ( Highlands ) ( ที่ราบสูงโนริคุระ ) จะเป็นป้าย Tourist Information Center (N-29) หรือ Kyukamura ( N-33 ) ก็ได้ ( ประมาณ 1 ชั่วโมง )
- เปลี่ยนขึ้นรถบัสอีกสาย ไปลงที่ป้าย เหนือระดับน้ำทะเล 2716 เมตร ( N-41 Elevation 2716m )
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/วิธีเดินทางไป-Norikura-1024x470.png)
ถ้าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากรูปนี้เราจะเดินทางมาได้ถึงป้าย Sanbon-Daki (น้ำตกสามสาย) แล้วต้องเปลี่ยนเป็นรถบัสครับ ไม่สามารถที่จะขับขึ้นไปถึงยอดได้
แต่ถ้าอยากดื่มด่ำธรรมชาติขึ้นยอดด้วยตัวเอง ก็สามารถเดินหรือปั่นจักรยานขึ้นไปได้ครับ (ระหว่างนั่งรถบัสเห็นคนปั่นจักรยานกันเยอะมาก)
website (ภาษาไทย) : https://www.alpico.co.jp/th/timetable/norikura/
———————————————————————————————————–
การเดินทางจาก Takayama
website (ภาษาอังกฤษ) : https://norikuradake.jp/en.html
———————————————————————————————————–
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02163-1024x683.jpg)
ข้างบนภูเขาก็ค่อนข้างคดเคี้ยว เมารถเอาเรื่องเลยครับ
พอพ้นบริเวณป่าขึ้นมาแล้วเราก็จะเริ่มได้เห็นวิวสวยสวยกันซักที
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03289-1024x683.jpg)
และในครั้งนี้ผมเดินทางมาช่วงปลายเดือนกันยายน ใบไม้ตามทางเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้มสีเหลืองสวยงามแล้วครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02271-683x1024.jpg)
ส่วนตัวคิดว่าช่วงที่สวยที่สุดจะเป็นระหว่างป้ายที่ N-39 ถึง N-40 ครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02257-1024x683.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03284-1024x683.jpg)
วันนี้ในตอนที่มาถึงหมอกลงลมแรงมาก ที่บริเวณป้ายนี้มองไปทางยอดเขาแทบไม่เห็นเลยครับ (ด้านขวาของภาพ)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02287-683x1024.jpg)
หลังจากลงแล้วถ้าเดินไปทางซ้าย ก็จะได้วิวประมาณนี้ครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02269-2-1024x683.jpg)
และถ้านั่งเลยมาอีกหนึ่งป้าย ที่สุดสาย N-42 Mt.Norikura Moutain Top. ที่นี่ก็จะมีร้านอาหาร ร้านของฝาก และห้องน้ำให้บริการ มาแวะเติมพลังกันที่นี่ได้ จากป้ายรถบัสนี้ ถ้าหันหลังให้ร้านค้า ด้านซ้ายจะเป็น Mt.Mao ( มาโอ ) ที่มีความสูงอยู่ที่ 2763 เมตร ใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาที เราก็จะขึ้นมาถึงยอดแล้วครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02178-1024x683.jpg)
จากยอดของ Mt.Mao ก็จะเห็นวิว ของถนน Sky Line ที่เป็นอีกเส้นทางที่จะมาที่นี่ได้
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02200-1024x683.jpg)
เห็นยอด Kengamine (เคนกามิเนะ) (ชื่อยอดของเขาโนริคุระจากตรงนี้ด้วย)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02188-1024x683.jpg)
และบริเวณใกล้เคียง ก็ยังมีทั้ง Daikokudake (ไดโคคุดาเคะ) กับ Fujimidake (ฟูจิมิดาเคะ) ที่สามารถไปเดินได้ด้วย
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02195-2-683x1024.jpg)
หลังจากที่ลงจาก Mt.Mao แล้ว เราก็จะเดินทางไปที่ที่พักด้านบนเขาครับ เพราะว่าจุดประสงค์ของการมาเที่ยวของเราในครั้งนี้ก็คือ ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ยอด Kengamine
ต้องเดินจากป้ายรถบัสไปยังที่พักนั้นเดินไม่ยาก ถนนทำมาดี เป็นทางเรียบๆซะส่วนใหญ่
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02292-1024x683.jpg)
ทางเดินไปที่พัก (ถ่ายจาก Mt.Mao)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02191-683x1024.jpg)
เราเลยเลือกที่จะพักที่ด้านบนเขาที่ Katanokoya (คาตะโนะโคยะ) เพื่อที่จะได้ขึ้นไปยอด Kengamine กันแบบไม่รีบร้อน (ถ้าอยากจองต้องโทรจองเท่านั้น) ในช่วงที่คนไม่เยอะก็ไม่จำเป็นต้องจองก็ได้ walk-in ได้เลยครับ (ภาพจากวันกลับ)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03083-1024x683.jpg)
เราเลือกพักแบบไม่มีอาหารเช้าเย็น ราคาอยู่ที่ 6,000 เยน + 500 เยน ค่า bed sheet เอาไว้ปูบนที่นอนอีกทีครับ ถ้านำถุงนอนมาเองก็ไม่ต้องเสีย 500 เยนตรงนี้
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03081-1024x683.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03077-1024x683.jpg)
ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำ ไม่มีเครื่องปรับอากาศทั้งแอร์และฮีทเตอร์ และจะปิดไฟตอนสามทุ่มครับ ถ้าจะมานอนที่นี่ก็อย่าลืมไฟฉาย บอดี้ชีทสำหรับเช็ดตัว ถุงนอนดีๆถ้าเป็นคนขี้หนาว เพราะวันที่ผมมาอากาศตอนกลางคืนอยู่ประมาณ 0 องศาครับ ถ้าไม่มีถุงนอนนี้ก็ห่มผ้ากันสามสี่ชั้น
สามารถจองแบบที่มีอาหารเช้าเย็น หรือเอาแค่มื้อใดมื้อหนึ่งก็ได้ ก็จะเพิ่มมามื้อละประมาณ 1500 เยน ครับ
จริงๆแล้วเราสามารถที่จะพักบริเวณ Norikura-Kogen แล้ว ก็ขึ้นบัสรอบเช้า ที่ชื่อว่า (Go-Raikou-Bus) (โกะไรโค) (ต้องจองเท่านั้น) มาก็ได้
เดือน 7-8
รถออกจาก Tourist Information Center (N-29) เวลา 3:40 และ ไปถึงปลายทางตอน 4:30
เดือน 9
รถออกจาก Tourist Information Center (N-29) เวลา 4:00 และ ไปถึงปลายทางตอน 4:50
แต่ถ้าจะให้ขึ้นถึงยอด Kengamine ต้องวิ่งเท่านั้นครับ ส่วนใหญ่ที่มากับรถรอบนี้ก็จะดูพระอาทิตย์ขึ้นจาก ยอดเขาใกล้ๆอย่าง Daikokudake กับ Fujimidake ครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02333-1024x683.jpg)
หลังจากเก็บของเข้าที่พักแล้วเราก็จะเดินขึ้นยอดเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตก แต่หมอกลงหนามาก มองแทบไม่เห็นทาง เลยยอมแพ้แล้วกลับลงมาเข้าที่พักครับ
——————————————————————————————————————————————–
วันที่ 2
หลังจากเข้านอนกันตั้งแต่ 3ทุ่ม เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นในเวลา 4:00
ที่ต้องรีบตื่นเพราะพระอาทิตย์จะขึ้นตอนประมาณ 5:30 ดังนั้นเราเลยต้องตื่นมาประมาณ 4:00 เพื่อที่จะเตรียมตัวและออกเดินในตอน 4:30 ครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02392-1024x683.jpg)
วันนี้เพิ่งจะผ่านขึ้น 12 ค่ำ มา 1 วัน ทำให้พระจันทร์ยังค้างอยู่บนฟ้า และมีความสว่างมาก เลยเห็นดาวน้อยไปนิด
พอเดินในความมืดมาได้สักพัก น่าจะประมาณ 5:10 ก็เริ่มเห็นแสงที่ขอบฟ้าแล้วครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02400-1024x683.jpg)
จากตรงนี้ยังอีกไกลพอสมควรที่จะถึงยอด เราก็เลยแวะถ่ายรูปกันก่อน 😂 แล้วก็รีบเดินต่อกันครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02458-1024x683.jpg)
หลังจากถ่ายรูปนี้ก็แทบวิ่งเลยครับ แล้วเราก็ขึ้นมาถึงยอด Kengamine ตอนเวลาประมาณ 5:35 พระอาทิตย์ขึ้นพ้นจากเส้นขอบฟ้ามานิดนึง และแน่นอนผมก็ไม่พลาดที่จะเก็บรูปพระอาทิตย์ขึ้นมาฝากเพื่อนๆครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02560-Pano-1024x365.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02548-1024x683.jpg)
หลังจากถ่ายรูปด้านบนยอดกันจนพอใจ กะเพาะเริ่มส่งเสียงประท้วง ก็ได้เวลาลงแล้วครับ
จากยอดลงไปไม่ไกล จะมีร้านกาแฟเล็กๆอยู่ร้านนึง พวกเราเลยมาแวะเติมพลังกันที่นี้ก่อนที่จะลงไปที่ที่พัก
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02856-683x1024.jpg)
ราคาแก้วละ 500 เยน ก็ถือว่าโอเคนะครับ ไม่ได้แพงเว่อร์แบบบางที่
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02916-683x1024.jpg)
บ้านเลขที่ด้านซ้ายก็คือร้านกาแฟ ส่วนด้านบนนั้นเป็นศาลเจ้าครับ
แล้วเมื่อแสงอาทิตย์ได้สาดลงมายังที่ที่เราอยู่ ก็ทำให้เห็นวิวจากบนเขาในตอนเดินลงครับ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02859-1024x683.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02958-683x1024.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02959-683x1024.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02944-1024x683.jpg)
ทางเดินก็จะเป็นหินซะส่วนใหญ่ มีเชือกสีเขียวเป็นตัวช่วยในการเดิน
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC02988-1024x683.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03004-1024x683.jpg)
ภาพนี้เป็น ทางเดินขึ้นเขาจากโรงแรมที่ถ่ายหลังลงมาแล้วครับ (ตอนเช้ามืดเกินไปมองไม่เห็นอะไรเลย)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03078-1024x683.jpg)
วิวจากในห้องพักก็ดีเห็นถึงยอดเขาเลย
หลังจากเช็คเอาท์แล้ว พวกเราก็เลือกที่จะเดินลงเขาด้วยเส้นทางอีกเส้นนึง ที่จะลงไปที่ป้าย N-40 Katanokoya Guchi ตอนแรกนึกว่าเป็นทางลัด พอเดินจริงแล้ว ใช้เวลานานกว่าทางปกติอีกครับ 😅
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03085-1024x683.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03113-1024x683.jpg)
แม้จะเดินยาก แต่วิวระหว่างทางก็ดีไม่น้อยเลย
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03184-683x1024.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03090-1024x683.jpg)
ระหว่างทางเดินลง เราก็ได้ไปเห็นคนกลุ่มนึงที่มีความพยายามอย่างสูง ที่จะมาเล่นสกีกันในเดือนกันยายน ตรงที่ที่หิมะยังเหลืออยู่ หนึ่งหย่อม เพราะว่า จะต้องแบกทั้งอุปกรณ์สกี รองเท้า แล้วยังต้องแบกตาข่ายมาตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ลงไปตรงหินอีกด้วย ยอมใจพี่สี่คนนี้จริงๆ
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03152-1024x683.jpg)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03190-1024x683.jpg)
จากที่พักลงไปถึงที่ป้ายรถบัส คิดว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ (นั่งดูคนเล่นสกีกันประมาณ 10 นาที)
![](https://www.jpsimplelife.com/wp-content/uploads/2021/10/DSC03291-683x1024.jpg)
ในระหว่างรอรถบัส ก็มีวิวสวยสวยให้เราดูไปเพลินๆ ถ่ายรูปเล่น แป๊บเดียวรถบัสก็มาแล้ว
ก็จบแล้วนะครับกับการท่องเที่ยวในครั้งนี้ ถือว่าอากาศดีมากในวันที่สอง
สรุป
ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นภูเขาที่เดินง่าย จากป้ายรถบัส N-42 Mountain Top น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อที่จะขึ้นไปให้ถึงยอด Kengamine ครับ แถมวิวข้างทางยังสวยมากๆด้วย
ถ้าเป็นมือใหม่และอยากลองปีนเขา ผมคิดว่าที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนะครับ น่าจะทำให้มีกำลังใจในการปีนลูกต่อไปด้วย
มาญี่ปุ่นครั้งหน้า ก็อย่าลืมมาเดินเล่นที่นี่กันนะครับ สวัสดีครับ
———————————————————————————————————————
เว็บไซต์ (ภาษาไทย) : https://www.alpico.co.jp/th/
เวลาเปิด-ปิด : มีรถบัสให้บริการไปยังยอดเขา 1 กค. – 31 ตค.
วันหยุด : ปิดฤดูหนาว ตั้งแต่ พย. – เมษายน
ค่าบริการ :
- ถ้าแค่ไปกลับ แบบไม่แวะลงระหว่างทาง สามารถไปจ่ายตั๋วแบบไปกลับ Matsumoto – Norikura 3800 เยน + Norikura – Mountain Top 3000 เยน ก็จะคุ้มกว่าตั๋วพาส 200 เยน
- ถ้าจะมีการแวะลงไปเที่ยวกลางทางในโนริคุระ หรือ จะไปคามิโคจิ สามารถซื้อตั๋วพาสแบบไม่จำกัดรอบ 2 วันจาก Matsumoto Bus Terminal ในราคา 7,000 เยน จะคุ้มกว่าครับ
- พาสอื่นๆ (ภาษาไทย) : https://www.alpico.co.jp/th/tickets/
พูดคุย แลกเปลี่ยน เรื่องที่เที่ยวและของกินกับผม ได้ที่
IG : bearcat.k
https://www.instagram.com/bearcat.k/