พาไปป้ายรถบัสที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น 標高2716メートル (ชื่อป้าย : เหนือระดับน้ำทะเล 2716 เมตร) + ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Mount Norikura – Kengamine (สูง 3,026 เมตร)

สวัสดีครับเพื่อนๆในวันนี้ผมจะพาขึ้นเขาแบบไม่ต้องเดินเยอะ!! เพราะว่าเราจะนั่งรถบัสไปลงที่ป้ายรถบัสที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ป้ายนี้สูงแค่ไหน ป้ายนี้ไปยังไง ป้ายนี้มีอะไร ตามผมมาดูกันได้เลยครับ

ป้ายนี้อยู่ที่ไหน : ภูเขาโนริคุระ, จังหวัดนากาโนะ (Mount Norikura, 乗鞍岳)

ป้ายนี้ชื่ออะไร : 標高2716メートル (Hyōkō 2716 mētoru) แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “เหนือระดับน้ำทะเล 2716 เมตร”

ป้ายนี้สูงแค่ไหน :  ตามชื่อป้ายเลยครับ 2716 เมตร สูงกว่าชั้นห้าของภูเขาไฟฟูจิ (2400 เมตร) อยู่ประมาณ 300 เมตร และถ้าเทียบกับตึกใบหยกของไทยที่สูง 304 เมตร ก็คือเอามาซ้อนกันขึ้นไปถึง 9 ชั้น เลยทีเดียว

แล้วเราจะขึ้นมาที่ความสูงระดับนี้กันทำไม มาเที่ยวไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

ขอเริ่มกันด้วยการเดินทางกันก่อนเลยแล้วกัน : ที่นี่นั้นมาได้จากสองทาง คือทางมามัตสึโมโต้ มาที่ Norikura Kogen แล้วขึ้นมาทาง Echo Line ที่ผมมา กับ จากทาง Takayama ทาง Sky Line ครับ

จากสถานีมัตสึโมโต้

  1. นั่งรถไฟจาก มัตสึโมโต้ ไปลง สถานีชินชิมะชิมะ (34 นาที)
  2. นั่งรถบัสจาก ชินชิมะชิมะ ไปลง บริเวณ Norikura Kogen ( Highlands ) ( ที่ราบสูงโนริคุระ ) จะเป็นป้าย Tourist Information Center (N-29) หรือ Kyukamura ( N-33 ) ก็ได้ ( ประมาณ 1 ชั่วโมง )
  3. เปลี่ยนขึ้นรถบัสอีกสาย ไปลงที่ป้าย เหนือระดับน้ำทะเล 2716 เมตร ( N-41 Elevation 2716m )

ถ้าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากรูปนี้เราจะเดินทางมาได้ถึงป้าย Sanbon-Daki (น้ำตกสามสาย) แล้วต้องเปลี่ยนเป็นรถบัสครับ ไม่สามารถที่จะขับขึ้นไปถึงยอดได้ 

แต่ถ้าอยากดื่มด่ำธรรมชาติขึ้นยอดด้วยตัวเอง ก็สามารถเดินหรือปั่นจักรยานขึ้นไปได้ครับ (ระหว่างนั่งรถบัสเห็นคนปั่นจักรยานกันเยอะมาก)

website (ภาษาไทย) : https://www.alpico.co.jp/th/timetable/norikura/

———————————————————————————————————–

การเดินทางจาก Takayama

website (ภาษาอังกฤษ) : https://norikuradake.jp/en.html

———————————————————————————————————–

ข้างบนภูเขาก็ค่อนข้างคดเคี้ยว เมารถเอาเรื่องเลยครับ

พอพ้นบริเวณป่าขึ้นมาแล้วเราก็จะเริ่มได้เห็นวิวสวยสวยกันซักที

และในครั้งนี้ผมเดินทางมาช่วงปลายเดือนกันยายน ใบไม้ตามทางเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้มสีเหลืองสวยงามแล้วครับ 

ส่วนตัวคิดว่าช่วงที่สวยที่สุดจะเป็นระหว่างป้ายที่ N-39 ถึง N-40 ครับ

วันนี้ในตอนที่มาถึงหมอกลงลมแรงมาก ที่บริเวณป้ายนี้มองไปทางยอดเขาแทบไม่เห็นเลยครับ (ด้านขวาของภาพ)

หลังจากลงแล้วถ้าเดินไปทางซ้าย ก็จะได้วิวประมาณนี้ครับ

และถ้านั่งเลยมาอีกหนึ่งป้าย ที่สุดสาย N-42 Mt.Norikura Moutain Top. ที่นี่ก็จะมีร้านอาหาร ร้านของฝาก และห้องน้ำให้บริการ มาแวะเติมพลังกันที่นี่ได้ จากป้ายรถบัสนี้ ถ้าหันหลังให้ร้านค้า ด้านซ้ายจะเป็น Mt.Mao ( มาโอ ) ที่มีความสูงอยู่ที่ 2763 เมตร ใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาที เราก็จะขึ้นมาถึงยอดแล้วครับ 

จากยอดของ Mt.Mao ก็จะเห็นวิว ของถนน Sky Line ที่เป็นอีกเส้นทางที่จะมาที่นี่ได้

Sky Line

เห็นยอด Kengamine (เคนกามิเนะ) (ชื่อยอดของเขาโนริคุระจากตรงนี้ด้วย)

และบริเวณใกล้เคียง ก็ยังมีทั้ง Daikokudake (ไดโคคุดาเคะ) กับ Fujimidake (ฟูจิมิดาเคะ) ที่สามารถไปเดินได้ด้วย

หลังจากที่ลงจาก Mt.Mao แล้ว เราก็จะเดินทางไปที่ที่พักด้านบนเขาครับ เพราะว่าจุดประสงค์ของการมาเที่ยวของเราในครั้งนี้ก็คือ ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ยอด Kengamine

ต้องเดินจากป้ายรถบัสไปยังที่พักนั้นเดินไม่ยาก ถนนทำมาดี เป็นทางเรียบๆซะส่วนใหญ่

ทางเดินไปที่พัก (ถ่ายจาก Mt.Mao)

เราเลยเลือกที่จะพักที่ด้านบนเขาที่ Katanokoya (คาตะโนะโคยะ) เพื่อที่จะได้ขึ้นไปยอด Kengamine กันแบบไม่รีบร้อน (ถ้าอยากจองต้องโทรจองเท่านั้น) ในช่วงที่คนไม่เยอะก็ไม่จำเป็นต้องจองก็ได้ walk-in ได้เลยครับ (ภาพจากวันกลับ)

เราเลือกพักแบบไม่มีอาหารเช้าเย็น ราคาอยู่ที่ 6,000 เยน + 500 เยน ค่า bed sheet เอาไว้ปูบนที่นอนอีกทีครับ ถ้านำถุงนอนมาเองก็ไม่ต้องเสีย 500 เยนตรงนี้

ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำ ไม่มีเครื่องปรับอากาศทั้งแอร์และฮีทเตอร์ และจะปิดไฟตอนสามทุ่มครับ ถ้าจะมานอนที่นี่ก็อย่าลืมไฟฉาย บอดี้ชีทสำหรับเช็ดตัว ถุงนอนดีๆถ้าเป็นคนขี้หนาว เพราะวันที่ผมมาอากาศตอนกลางคืนอยู่ประมาณ 0 องศาครับ ถ้าไม่มีถุงนอนนี้ก็ห่มผ้ากันสามสี่ชั้น

สามารถจองแบบที่มีอาหารเช้าเย็น หรือเอาแค่มื้อใดมื้อหนึ่งก็ได้ ก็จะเพิ่มมามื้อละประมาณ 1500 เยน ครับ

จริงๆแล้วเราสามารถที่จะพักบริเวณ Norikura-Kogen แล้ว ก็ขึ้นบัสรอบเช้า ที่ชื่อว่า (Go-Raikou-Bus) (โกะไรโค) (ต้องจองเท่านั้น) มาก็ได้

เดือน 7-8

รถออกจาก Tourist Information Center (N-29) เวลา 3:40 และ ไปถึงปลายทางตอน 4:30

เดือน 9

รถออกจาก Tourist Information Center (N-29) เวลา 4:00 และ ไปถึงปลายทางตอน 4:50

แต่ถ้าจะให้ขึ้นถึงยอด Kengamine ต้องวิ่งเท่านั้นครับ ส่วนใหญ่ที่มากับรถรอบนี้ก็จะดูพระอาทิตย์ขึ้นจาก ยอดเขาใกล้ๆอย่าง Daikokudake กับ Fujimidake ครับ

หลังจากเก็บของเข้าที่พักแล้วเราก็จะเดินขึ้นยอดเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตก แต่หมอกลงหนามาก มองแทบไม่เห็นทาง เลยยอมแพ้แล้วกลับลงมาเข้าที่พักครับ

——————————————————————————————————————————————–

วันที่ 2

หลังจากเข้านอนกันตั้งแต่ 3ทุ่ม เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นในเวลา 4:00

ที่ต้องรีบตื่นเพราะพระอาทิตย์จะขึ้นตอนประมาณ 5:30 ดังนั้นเราเลยต้องตื่นมาประมาณ 4:00 เพื่อที่จะเตรียมตัวและออกเดินในตอน 4:30 ครับ

วันนี้เพิ่งจะผ่านขึ้น 12 ค่ำ มา 1 วัน ทำให้พระจันทร์ยังค้างอยู่บนฟ้า และมีความสว่างมาก เลยเห็นดาวน้อยไปนิด

พอเดินในความมืดมาได้สักพัก น่าจะประมาณ 5:10 ก็เริ่มเห็นแสงที่ขอบฟ้าแล้วครับ

จากตรงนี้ยังอีกไกลพอสมควรที่จะถึงยอด เราก็เลยแวะถ่ายรูปกันก่อน 😂 แล้วก็รีบเดินต่อกันครับ

หลังจากถ่ายรูปนี้ก็แทบวิ่งเลยครับ แล้วเราก็ขึ้นมาถึงยอด Kengamine ตอนเวลาประมาณ 5:35 พระอาทิตย์ขึ้นพ้นจากเส้นขอบฟ้ามานิดนึง และแน่นอนผมก็ไม่พลาดที่จะเก็บรูปพระอาทิตย์ขึ้นมาฝากเพื่อนๆครับ

หลังจากถ่ายรูปด้านบนยอดกันจนพอใจ กะเพาะเริ่มส่งเสียงประท้วง ก็ได้เวลาลงแล้วครับ

จากยอดลงไปไม่ไกล จะมีร้านกาแฟเล็กๆอยู่ร้านนึง พวกเราเลยมาแวะเติมพลังกันที่นี้ก่อนที่จะลงไปที่ที่พัก

ราคาแก้วละ 500 เยน ก็ถือว่าโอเคนะครับ ไม่ได้แพงเว่อร์แบบบางที่

บ้านเลขที่ด้านซ้ายก็คือร้านกาแฟ ส่วนด้านบนนั้นเป็นศาลเจ้าครับ

แล้วเมื่อแสงอาทิตย์ได้สาดลงมายังที่ที่เราอยู่ ก็ทำให้เห็นวิวจากบนเขาในตอนเดินลงครับ

ทางเดินก็จะเป็นหินซะส่วนใหญ่ มีเชือกสีเขียวเป็นตัวช่วยในการเดิน

ภาพนี้เป็น ทางเดินขึ้นเขาจากโรงแรมที่ถ่ายหลังลงมาแล้วครับ (ตอนเช้ามืดเกินไปมองไม่เห็นอะไรเลย)

วิวจากในห้องพักก็ดีเห็นถึงยอดเขาเลย

หลังจากเช็คเอาท์แล้ว พวกเราก็เลือกที่จะเดินลงเขาด้วยเส้นทางอีกเส้นนึง ที่จะลงไปที่ป้าย N-40 Katanokoya Guchi ตอนแรกนึกว่าเป็นทางลัด พอเดินจริงแล้ว ใช้เวลานานกว่าทางปกติอีกครับ 😅

แม้จะเดินยาก แต่วิวระหว่างทางก็ดีไม่น้อยเลย

ระหว่างทางเดินลง เราก็ได้ไปเห็นคนกลุ่มนึงที่มีความพยายามอย่างสูง ที่จะมาเล่นสกีกันในเดือนกันยายน ตรงที่ที่หิมะยังเหลืออยู่ หนึ่งหย่อม เพราะว่า จะต้องแบกทั้งอุปกรณ์สกี รองเท้า แล้วยังต้องแบกตาข่ายมาตั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ลงไปตรงหินอีกด้วย ยอมใจพี่สี่คนนี้จริงๆ

จากที่พักลงไปถึงที่ป้ายรถบัส คิดว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ (นั่งดูคนเล่นสกีกันประมาณ 10 นาที)

ในระหว่างรอรถบัส ก็มีวิวสวยสวยให้เราดูไปเพลินๆ ถ่ายรูปเล่น แป๊บเดียวรถบัสก็มาแล้ว

ก็จบแล้วนะครับกับการท่องเที่ยวในครั้งนี้ ถือว่าอากาศดีมากในวันที่สอง

สรุป

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นภูเขาที่เดินง่าย จากป้ายรถบัส N-42 Mountain Top น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อที่จะขึ้นไปให้ถึงยอด Kengamine ครับ แถมวิวข้างทางยังสวยมากๆด้วย

ถ้าเป็นมือใหม่และอยากลองปีนเขา ผมคิดว่าที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนะครับ น่าจะทำให้มีกำลังใจในการปีนลูกต่อไปด้วย

มาญี่ปุ่นครั้งหน้า ก็อย่าลืมมาเดินเล่นที่นี่กันนะครับ สวัสดีครับ

———————————————————————————————————————

เว็บไซต์ (ภาษาไทย) : https://www.alpico.co.jp/th/

เวลาเปิด-ปิด : มีรถบัสให้บริการไปยังยอดเขา 1 กค. – 31 ตค.

วันหยุด : ปิดฤดูหนาว ตั้งแต่ พย. – เมษายน

ค่าบริการ : 

  • ถ้าแค่ไปกลับ แบบไม่แวะลงระหว่างทาง สามารถไปจ่ายตั๋วแบบไปกลับ Matsumoto – Norikura 3800 เยน + Norikura – Mountain Top 3000 เยน ก็จะคุ้มกว่าตั๋วพาส 200 เยน
  • ถ้าจะมีการแวะลงไปเที่ยวกลางทางในโนริคุระ หรือ จะไปคามิโคจิ สามารถซื้อตั๋วพาสแบบไม่จำกัดรอบ 2 วันจาก Matsumoto Bus Terminal ในราคา 7,000 เยน จะคุ้มกว่าครับ
  • พาสอื่นๆ (ภาษาไทย) : https://www.alpico.co.jp/th/tickets/

พูดคุย แลกเปลี่ยน เรื่องที่เที่ยวและของกินกับผม ได้ที่

IG : bearcat.k
https://www.instagram.com/bearcat.k/