หากพูดถึง “ฤดูใบไม้ผลิ” ในประเทศญี่ปุ่นแล้วสิ่งแรกที่ทุกๆ คนนึกถึงกันก็คือ “ดอกซากุระ” ใช่ไหมคะ ซากุระนั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูหนาวมาสู่ฤดูใบไม้ผลิอันแสนอบอุ่น สีสันจากดอกซากุระได้แต่งแต้มสถานที่ต่างๆ ให้กลายเป็นสีชมพูคู่กับท้องฟ้าสีครามอันสดใส ฤดูกาลนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ของคนญี่ปุ่น
และในวันนี้เราจะมาแนะนำงานเทศกาลชมดอกซากุระที่จัดขึ้นที่ผ่านมาในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) เมืองคาวาซุ(Kawazu)กับ “เทศกาลคาวาซุซากุระ” (Kawazu Cherry Blossom Festival) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะจัดอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม แต่สำหรับในปี 2022 ซึ่งยังมีอิทธิพลของไวรัสCOVID-19 งานจึงได้ร่นระยะเวลาลงจัดถึง28 กุมภาพันธ์ 2022เท่านั้น
โดยทั่วไปแล้วดอกซากุระสายพันธุ์ทั่วไปมักจะบานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน แต่สำหรับดอกซากุระสายพันธุ์คาวาซุนั้นเป็นสายพันธุ์ที่บานเร็วที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ลักษณะพิเศษของดอกซากุระสายพันธุ์นี้คือมีสีชมพูเข้ม ขนาดใหญ่นั่นเองค่ะ
เกริ่นมากันเยอะแล้วเรามาพูดถึงงานเทศกาลกันดีกว่า จังหวัดชิซุโอกะนั้นอยู่ใกล้กับโตเกียว (Tokyo)ทำให้สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้ง่าย และการเดินทางครั้งนี้เราได้จองตั๋วรถไฟด่วนพิเศษสำหรับการท่องเที่ยวที่มีชื่อว่าโอโดริโกะ (Super View Odoriko Express)มีเส้นทางวิ่งระหว่างสถานีโตเกียว (Tokyo Station)ไปยังสถานีอิสุคิว-ชิโมดะ (Izukyu-ShimodaStation) ในจังหวัดชิสุโอกะ ข้อดีคือรถไฟขบวนนี้ยังผ่านเมืองท่องเที่ยวดังๆ ในจังหวัดชิซุโอกะอย่างอาตามิ (Atami)อีกด้วยนะ
เนื่องจากว่าเมืองคาวาซุค่อนข้างไกลจากโตเกียว เรียกได้ว่าเป็นสถานีเกือบสุดสายเลยค่ะจึงขอแนะนำสำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งรถไฟนานๆ หรือไม่มีเวลาเท่าไหร่นัก เพราะขนาดเราจองตั๋วรถไฟขบวนพิเศษนี้ยังใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมดเกือบๆ 3 ชั่วโมง บรรยากาศภายในรถค่อนข้างดูใหม่และที่นั่งกว้างสบายมากค่ะ ชอบตรงที่มีที่ชาร์จแบตให้ด้วย และที่สำคัญรถไฟขบวนนี้ไม่มีตู้ Non-Reserved จึงต้องจองและเลือกที่นั่งล่วงหน้า หากขึ้นจากโตเกียวไปลงที่สถานีคาวาซุ ราคาตั๋วรวมที่นั่งทั้งหมดแล้วอยู่ที่ 6,390 เยน / เที่ยว
เมื่อเราเดินทางมาถึงสถานีคาวาซุแล้วไม่ต้องกลัวหลงทางเลยค่ะ เพราะจะคับคั่งไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยวที่มาชมซากุระไม่ว่าจะเป็นช่วงวันธรรมดาหรือวันเสาร์อาทิตย์ก็ตาม แค่ออกมาจากสถานีปุ๊ป เราก็จะเจอต้นซากุระบานต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณสัญญาณไฟจราจรหน้าสถานีเลย ให้เราเดินตามนักท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเจอต้นซากุระที่บานเรียงรายอยู่ ใช้เวลาเดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ นอกจากดอกซากุระแล้วก็ยังมีดอกนาโนะฮานะสีเหลืองบานตัดกันเป็นภาพที่สวยงามมากๆ
ตอนแรกที่จินตนาการภาพไว้นึกว่าจะเป็นต้นซากุระเล็กๆ ไม่กี่ต้น เดินวนแป๊ปเดียวก็ทั่วงานแล้ว แต่ต้องบอกเลยว่าเราคิดผิดมาก เพราะที่นี่มีต้นซากุระมากถึง 8,000 ต้นที่เรียงรายตลอดเส้นทางริมแม่น้ำทอดยาวไปจนถึงทะเลที่อยู่ใกล้ๆ นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินเล่นได้เกือบทั้งวัน ใครที่เป็นสายถ่ายรูป อยากได้รูปสวยๆ กลับไปล่ะก็จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน
นอกจากซากุระจะเป็นไฮไลท์ของงานแล้ว ชาวเมืองคาวาซุยังมาออกร้านจำหน่ายของที่ระลึก ของท้องถิ่นต่างๆ รวมไปถึงอาหารและขนม เช่น ยากิโซบะ ดังโงะ และอื่นๆ อีกมากมายให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย เพื่อนๆ สามารถซื้อและไปนั่งรับประทานบริเวณม้านั่งริมแม่น้ำท่ามกลางต้นซากุระก็ได้ นอกจากนี้ บริเวณนั้นมีทั้งร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์รวมไปถึงร้านขายยาตั้งอยู่ใกล้ๆ จึงไม่ต้องกลัวว่าหิวแล้วจะไม่มีอะไรให้รับประทานเลยค่ะ หรือใครที่ชอบบรรยากาศดีหน่อยก็ขอแนะนำให้แวะไปนั่งร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารใกล้ๆ ไปก็ไม่เลวเช่นเดียวกัน
ใครที่มาเยือนที่นี่จะมีขนมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ “ไทยากิ” (Taiyaki)เป็นขนมญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้ง ส่วนใหญ่มักจะสอดไส้ถั่วแดง เป็นรูปทรงปลาแสนน่ารัก โดยทั่วไปแล้วจะมีสีน้ำตาลอ่อน แต่สำหรับที่งานเทศกาลคาวาซุซากุระนั้นได้ย้อมเจ้าปลาให้เป็นสีชมพูหวาน เข้ากับธีมซากุระสุดๆ ไปเลยค่ะ สาวๆ ส่วนใหญ่ต่างก็ซื้อไปถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียกันใหญ่ นอกจากไทยากิแล้วก็มีกล้วยเคลือบสตรอว์เบอร์รีสีชมพู โรยด้วยเกล็ดน้ำตาลสายรุ้งก็น่ารักไม่แพ้กัน
ขนาดห้องน้ำสาธารณะยังตกแต่งด้วยสีชมพูเลย หวานคุมธีมสุดๆ แค่เฉพาะบริเวณหน้าห้องน้ำก็รัวชัตเตอร์ไปหลายรอบแล้ว นอกจากบริเวณม้านั่งและบริเวณที่มีรั้วกั้นแล้ว บริเวณฝั่งตรงข้ามยังเป็นโซนที่สามารถเดินลงไปด้านล่างได้ ซึ่งบริเวณนี้ก็เป็นทั้งจุดถ่ายรูปและจุดพักผ่อนแบบชิลล์ๆ มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นมานั่งปิกนิคกันก็ด้วย
เป็นอย่างไรบ้างคะกับบรรยากาศภายในงานเทศกาลคาวาซุซากุระ น่าสนใจมากเลยใช่ไหมคะ และเนื่องจากอิทธิพลของไวรัส COVID-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปเป็นอย่างมาก จึงเรียกได้ว่าสามารถแวะถ่ายรูปตามจุดต่างๆ กันได้แบบชิลล์ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะติดคนเข้ามาในเฟรมเลยค่ะ
ในอนาคตหากประเทศญี่ปุ่นกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอีกครั้งเมื่อไหร่ เราขอแนะนำให้ใส่สถานที่นี้ลงไปในแผนการเดินทางของเพื่อนๆ เลยค่ะ รับรองว่ามาแล้วไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ
ขอขอบพระคุณรูปภาพสวยๆ จาก Kamin Kangkarn
ข้อมูลที่ตั้ง:https://goo.gl/maps/enckHN7GMCKuLuXQA
หน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ภาษาญี่ปุ่น) :https://kawazuzakura.jp
การเดินทาง:จากสถานีคาวาซุ (Kawazu Station) เดินเท้าใช้เวลาประมาณ 5 นาที