อิเนะ (Ine)หมู่บ้านชาวประมงสุดคลาสสิคในเกียวโต

หลายคนคงจะรู้จักหมู่บ้านชาวประมงอิเนะ (Ine) กันมาบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหมู่บ้านแห่งนี้ให้มากขึ้น แบบทุกซอกทุกมุม ไปชมกันเลยค่ะ

ตอนนี้ญี่ปุ่นเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว หลายคนคงคิดใช่ไหมล่ะคะว่าหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นคงไม่ร้อนไปกว่าที่ไทยหรอก ขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่จริง ที่ญี่ปุ่นร้อนกว่าที่ไทยมาก โดยเฉพาะในจังหวัดเกียวโตซึ่งภูมิศาสตร์ของเมืองเป็นแบบแอ่งกระทะ ทำให้อากาศไม่ถ่ายเท นอกจากจะร้อนอบอ้าวแล้ว ยังหายใจลำบากมากๆ แต่ถึงแม้จะร้อนแค่ไหน เราก็ยังมีแรงออกไปเที่ยวค่ะ แน่นอนว่าที่เที่ยวช่วงร้อนๆแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นทะเล การได้ไปนั่งริมทะเลเย็นๆเป็นอะไรที่เหมาะกับฤดูร้อนสุดๆ โจทย์ในการเดินทางครั้งนี้ พวกเราอยากไปเที่ยวทะเลที่ไม่ไกลจากจังหวัดเกียวโต ที่พวกเราอาศัยอยู่มากนัก และด้วยเวลาที่จำกัด อิเนะ (Ine) จึงเป็นคำตอบของทริปนี้ค่ะ

หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ

ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ จ.เกียวโต เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและธรรมชาติที่สวยงาม ด้วยประชากรที่มีอยู่ประมาณ 2000 คน หมู่บ้านจึงค่อนข้างเงียบสงบ เมื่อเดินเข้ามาในหมู่บ้านจะพบกับบ้านที่มีลักษณะพิเศษซึ่งแตกต่างจากหมู่บ้านชาวประมงที่อื่น นั่นก็คือบ้านแบบ  Funaya (舟屋)หรือ boathouse  โดยชั้นล่างสามารถจอดเรือได้ ส่วนชั้นบนเป็นที่พักอาศัย ออกแบบมาเพื่อให้ชาวประมงสามารถออกไปหาปลาได้อย่างสะดวก  ปัจจุบันบ้านแบบ Funaya บางส่วน ก็ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักเช่นกัน แต่ขอบอกว่าต้องรีบจองนิดนึง เพราะคิวยาวมากๆ ในส่วนของพวกเราเป็นทริป 2 วัน 1 คืน มีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 5 คน เดินทางด้วยรถเช่าของบริษัทโตโยต้า ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางที่เราแนะนำที่สุด เพราะสะดวกสบาย แวะเที่ยวได้หลายที่ แถมยังประหยัดงบประมาณได้อีกด้วย (ส่วนการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ เราแปะวิธีการเดินทางไว้ให้ด้านล่างค่ะ) ช่วงเวลาที่พวกเราไปเป็นช่วงหยุดยาวฤดูร้อนของญี่ปุ่นพอดี ทำให้ห้องพักต่างๆเต็มหมด แต่ด้วยแต้มบุญที่สั่งสมมา มีลูกค้าท่านอื่นยกเลิกพอดี พวกเราก็เลยได้ค้างที่อิเนะเป็นเวลา 1 คืน ค่ะ เย้ๆ

เราพัก Guesthouse ชื่อว่า Funato ไม่ได้เป็นบ้านแบบ Funaya แต่เป็นบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านอิเนะ อยู่ห่างจากตลาดปลาเพียงแค่ 280 เมตร ภายในบ้านถูกดัดแปลงให้เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว หากใครมาพักที่นี่ไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารกับเจ้าของห้องพักไม่ได้ เพราะพี่เขาสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศภายในห้องพัก จะมีลักษณะเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่น หรือเรียวกัง ที่พักมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้น 1 จะแบ่งออกเป็นส่วนของห้องนอน 2 ห้อง ห้องอาหาร ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง ชั้น 2 จะเป็นโซนสำหรับนั่งชิล มีปาร์ตี้เล็กๆแบบไม่เสียงดัง และในส่วนของชั้น 3 เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน ราคาที่พักอยู่ที่คนละ 10000 เยน/คืน

ข้อมูลห้องพักเพิ่มเติม https://inefunaoto.com/

ห้องนอน 2 ห้องสามารถทะลุเข้าหากันได้ หากต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถเลื่อนประตูปิดได้
ชั้น 2 โซนสำหรับนั่งชิล

ในส่วนของกิจกรรมยามเช้า คุณพี่เจ้าของที่พักนัดพวกเราตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อพาพวกเราไปดูวิถีชีวิตของชาวประมงใน หมู่บ้านอิเนะ ทุกๆวันจะมีชาวประมงออกไปจับปลา แล้วนำมาคัดแยกชนิดของปลากันที่ตลาดปลาแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นที่สำหรับประมูลปลาขนาดย่อมๆด้วย เจ้าของร้านอาหารต่างๆในหมู่บ้านก็ออกมาคัดปลาด้วยตัวเองกันเลยทีเดียว ถ้าได้รับประทานปลาที่นี่ต้องขอบอกเลยว่าสดจริงๆค่ะ

ก่อนไปทำกิจกรรมต่อไป เราแวะทานมื้อเช้ากันที่ 舟屋食堂 (Funaya Shokudou) ร้านอาหารจะอยู่ชั้น2 ส่วนบริเวณชั้น 1 คือศูนย์ให้บริการข่าวสารแก่นักท่องเที่ยวอิเนะ มื้อเช้าของที่นี่จะมีแค่เซตอาหารเช้าให้เลือกเท่านั้น ราคา 1000 เยน/เซต

Photo Credit : https://ine-tabi.com/eat/breakfast/
มุมนี้ถ่ายจากร้าน Funaya Shokudou ออกไป

กิจกรรมถัดไปคุณพี่เจ้าของบ้านพักพาพวกเราไปนั่งเรือรอบอ่าวอิเนะ เพื่อชมความสวยงามของหมู่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ราคาอยู่ที่ 1000 เยน/คน แถมฟรีขนมสำหรับนกนางนวลคนละ 1 ถุง ในการนั่งเรือครั้งนี้พวกเราเพลิดเพลินกับการให้อาหารนกมาก จนเกือบลืมชมบรรยากาศรอบๆไปเลยค่ะ คุณลุงคนขับเรือ จะขับพาชมรอบๆอ่าวอิเนะพร้อมทั้งบรรยายประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน สารภาพตรงนี้เลยค่ะ ว่าแทบไม่ได้ฟังที่ลุงพูดเลยเพราะมัวแต่ถ่ายรูป  

ได้เวลามื้อเที่ยง พวกเราทานอาหารกันที่ร้าน Funaya เป็นร้านที่ทางคุณพี่เจ้าของที่พักแนะนำ ร้านจะอยู่ใกล้กับจุดชมวิว Michinoeki Funaya no Sato Ine ซึ่งอยู่บนภูเขา จึงสามารถชมวิวอ่าวอิเนะได้อย่างสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว อาหารอร่อยบรรยากาศแบบนี้ต้องไม่พลาด ร้าน Funaya เวลาทำการ 10.00-17.00 ปิดทุกวันอังคาร

อาหารมื้อกลางวันของเรา

Michinoeki Funaya no Sato Ine จุดชมวิวมุมสูงของหมู่บ้าน มาถึงที่นี่ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปตรงนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงอิเนะ จุดนี้อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารที่เราทาน เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว วิวด้านบนนี้คือที่สุดจริงๆ สามารถมองเห็นวิวทั้งหมู่บ้านเลย

คาเฟ่ในอิเนะ (Ine café)

หลังจากที่ทานอาหารคาวเสร็จก็ไปต่อกันที่ของหวาน คาเฟ่แห่งนี้ถึงแม้จะเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน แต่การตกแต่งก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านโบราณไว้เหมือนเดิม ภายในร้านมีโต๊ะนั่งอยู่ไม่เยอะ ถ้ามาตรงกับช่วงเทศกาลสำคัญๆของญี่ปุ่นอาจจะหาที่นั่งยากค่ะ  เมนูที่เราสั่งมาเป็นเค้ก Singnature พร้อมเครื่องดื่ม (เมื่อสั่งเค้กพร้อมเครื่องดื่มจะได้รับส่วนลดค่าเครื่องดื่ม 200 เยนด้วยนะ)

เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 11.00 – 17.00 (L.O.16.45) เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00-17.00 (L.O.16.45) (ปิดทำการทุกวันพุธ)

มุมมหาชนของทางร้านที่ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูป

จบทริปนี้ด้วยการทานของอร่อยๆ แหะๆ หมู่บ้านชาวประมงอิเนะเป็นหมู่บ้านที่เหมาะแก่การมาเที่ยวแบบสโลไลฟ์ เป็นที่ที่ชาร์จพลังงานให้กับร่างกายที่เหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างเงียบสงบ เสียงนกอีกายังร้องดังกว่าเสียงคนคุยกันเสียอีก อ่อ ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่มีร้านสะดวกซื้อนะคะ หากจะมาพักที่นี่แนะนำให้ซื้อเตรียมขนมนมเนยมาจากข้างนอก และในส่วนของร้านอาหารค่อนข้างปิดให้บริการเร็วค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

วิธีการเดินทาง

  • ขึ้นรถไฟจากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) มาลงที่สถานีอามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate Station) จากนั้นก็ขึ้นรถบัสประจำทางจากหน้าสถานีมาลงที่ป้าย อิเนะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที

ข้อมูลการท่องเที่ยวและกิจกรรมในอิเนะ (มีภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น)

https://www.ine-kankou.jp/en

สามารถติดตาม พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเราเพิ่มเติมได้ที่

https://www.facebook.com/Marumukus-diary-102895085266862

สามารถติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่ https://www.jpsimplelife.com/