Salt&Sun ร้านกาแฟริมชายฝั่งทะเลเมือง Abashiri จังหวัดฮอกไกโด

Salt&Sun

จะดีแค่ไหนถ้าวันนึงคุณได้ลองใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้า ดื่มกาแฟ พร้อมชมวิวทะเลโอค็อตสค์ ทะเลแถบตะวันออกของฮอกไกโดไปพร้อมๆ กัน

เพียงขับรถประมาณ 5 นาทีจากสถานี JR Abashiri ทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูโฮมเมดแสนอบอุ่นและเป็นมิตรต่อร่างกาย ชวนให้ผู้มาเยือนประทับใจ พร้อมสัมผัสลมทะเลในฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาว คุณสามารถผ่อนคลายไปกับเตาผิงและการจิบกาแฟอุ่นๆ ท่ามกลางวิวหิมะขาวโพลนภายนอก

ที่นี่คือร้านกาแฟวิวทะเล ที่ภาพภายนอกเหมือนยุ้งฉางเก่าแสนคลาสสิค เน้นใช้วัสดุที่ทำจากไม้เก่าเป็นหลัก และเมื่อก้าวเข้ามาในร้านที่บริเวณชั้น 1 ถูกตกแต่งด้วยอุปกรณ์ทำฟาร์มเก่าๆ และหาชมได้ยาก พร้อมกับมุมที่วางจำหน่ายข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร สินค้าเบ็ดเตล็ด และเครื่องประดับแบบแฮนด์เมดที่ทำขึ้นโดยคนในพื้นที่ โดยทางร้านยังตั้งใจแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นแรกทำเป็นแกลเลอรี จัดแสดงผลงานของศิลปินที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แถบฮอกไกโดเป็นประจำ ดังนั้นอย่าลืมแวะชมด้วยเช่นกัน ส่วนบนชั้น 2 ของบ้านไม้หลังนี้ มีมุมกระดานสีดำที่บอกเมนูอาหารประจำวัน กระจกใสแผ่นยาว และระเบียงที่สามารถมองเห็นวิวทะเลโอค็อตสค์แบบพาโนราม่าได้จากที่นี่

เมื่อมาที่ร้านนี้คุณสามารถซื้อผักตามฤดูกาลที่ปลูกแบบออร์แกนิคได้จากที่นี่ด้วย อย่าว่าแต่ผักสดๆ ที่ปลอดภัยต่อร่างกายเลย ส่วนผสมอื่นๆ ในแต่ละเมนูของทางร้านก็คัดสรรมาจากท้องถิ่นในอะบาชิริ หรือในเกาะฮอกไกโดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฟักทองแสนอร่อยในฤดูใบไม้ร่วงที่นำมาทำพุดดิ้งรสละมุน หรือเจลลี่กาแฟที่จะมาช่วยเรียกความสดชื่นในฤดูร้อน นอกจากนั้นยังมีลูกพลับตากแห้ง มันฝรั่งคิตะอะการิ โรสแมรี่ ถั่ว อะโวคาโด ถั่วเหลือง  มัสตาร์ด น้ำผึ้ง ข้าว ไข่ น้ำมันงา อีกทั้งทุกเมนูของทางร้านล้วนถูกจัดวางมาในภาชนะและถ้วยชามแสนน่ารักที่ทางร้านเลือกใช้

หญิงสาวผู้มีรอยยิ้มสดใสราวกับดวงอาทิตย์
“ฉันมีความสุขกับการตกแต่งร้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นฝีมือฉันและสามีของฉัน” คุณคาโอริ คาวาอุจิ เจ้าของร้านกล่าว
เธอเป็นหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มสดใสราวกับดวงอาทิตย์ พร้อมส่งต่อพลังงานชีวิตแก่ผู้มาเยือน แม้เธอจะเกิดในโตเกียว แต่เมืองอะบาชิริแห่งนี้นั้นเป็นบ้านเกิดของสามีเธอ ชายหนุ่มที่เธอพบรักที่โรงเรียนศิลปะในโตเกียว ซึ่งในเวลาต่อมาเธอก็ได้มาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดของเขา และอุทิศเวลาตลอด 10 ปีเพื่อเลี้ยงลูก 4 คน พร้อมกับทำร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้ไปพร้อมๆ กัน   

“ฉันอยากมีร้านกาแฟแบบนี้มาโดยตลอด ฉันต้องการสร้างสถานที่ที่ฉันสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนในท้องถิ่น  สามารถมองวิวทะเลสีฟ้าสุดถนนในฤดูร้อน และมองเห็นธารน้ำแข็งขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว”  และข้างๆ ร้านนี้ คือบ้านที่เธอใช้อยู่อาศัย เธอเลือกจะปลูกผักสวนครัว สมุนไพรและผลเบอร์รี่ที่ใช้ในร้านเอาไว้ด้วย และการที่เธอเลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิคให้มากที่สุดก็เพราะเด็กๆ ทั้ง 4 คนของเธอ ก็สามารถรับประทานอาหารที่ร้านได้อย่างสบายใจเช่นกัน

ร้านที่เลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นพร้อมเสิร์ฟเมนูโฮมเมดแสนอบอุ่นและเป็นมิตรต่อร่างกาย
มากกว่าร้านกาแฟ ที่นี่คือร้านอาหาร และร้านขนมที่เลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก โดยที่คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรสและขนมหวานที่ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ในท้องถิ่นและเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อีกทั้งมีความออร์แกนิคในตัวเอง

อย่างที่หลายคนรู้ว่าพื้นที่ในแถบฮอกไกโดนั้นเป็นพื้นที่ทำเกษตรกรรมเป็นหลักก็จริง ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญในเรื่องการเพาะปลูกอย่างระมัดระวัง และไม่ใช่แค่เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ผลิตเมล็ดกาแฟด้วย การใส่ใจในสิ่งเหล่านี้เอง ที่ทางร้านต้องการให้ลูกค้าทุกคนที่ก้าวเท้าเข้ามาในร้านประทับใจในรสชาติของทุกเมนู และรู้สึกถึงความผ่อนคลายเมื่อมาที่นี่อย่างแท้จริง

โอเอซิสสำหรับพนักงานออฟฟิศ
กาแฟของทางร้านใช้อาราบิก้าที่ปลูกในแถบคิตามิ เน้นช่วยให้ผ่อนคลาย โดยใช้วิธีการคั่วแบบฝรั่งเศส และเมนูกาแฟสุดสร้างสรรค์ประจำเดือนที่ลูกค้าจำนวนมากถึงกับตั้งหน้าตั้งตารอเลยทีเดียว แนะนำให้กินกับสโคนที่ทาด้วยอะบาชิริแยมสตรอว์เบอร์รี่ และครีมสดแบบออร์แกนิคด้วยนะ

กระดานดำขนาดใหญ่ภายในร้าน เป็นรายชื่อของเมนูอาหารกลางวันในวันนั้นๆ  ทางร้านจะทำการเตรียมอาหารกลางวัน 2 แบบ และขนมอบ 3 แบบ ที่ใช้ส่วนผสมที่มีในแต่ละวัน

“เมนูอาหารกลางวันที่นี่มีจำกัดเพียง 10 ชุดต่อวันเท่านั้น จึงแนะนำให้ทำการจองก่อน และการที่เราเน้นทำเมนูอาหารท้องถิ่นที่ดีต่อสุขภาพให้ได้มากที่สุด จึงมีการเปลี่ยนเมนูสำหรับมื้อกลางวันในทุกวัน ฉันสังเกตว่าสิ่งเหล่านี้มันทำให้ร้านมีชีวิตชีวามากขึ้น”

หนุ่มสาวออฟฟิศที่มาที่นี่ นอกจากเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ เสริมภูมิต้านทานและดีต่อสุขภาพแล้ว ก็ยังสามารถพักผ่อนพร้อมหลบหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ภายในช่วงเวลาพักอันน้อยนิดของพวกเขาได้

ความอร่อยที่เข้าถึงจิตใจและร่างกาย
สืบเนื่องจากสามีของคุณคาโอริเป็นชาวประมง ทำให้บางวันทางร้านก็มีเมนูที่ทำจากอาหารทะเลสดๆ ไว้ให้บริการอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ในฤดูใบไม้ผลิ เจ้าของร้านจะเสิร์ฟเมนูจากหอยที่จับได้ในช่วงเวลานั้น และทางร้านเองก็มีเมนูตามฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ยิ่งกินมากเท่าไรก็ยิ่งมีพลังงานมากขึ้นเท่านั้น รวมทั้งร่างกายและจิตใจก็จะอบอุ่นขึ้นด้วย ลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่ได้มาที่นี่ มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันไว้อย่างนี้ และที่สำคัญเลยคุณคาโอริเอง อยากให้ทุกคนกลับบ้านไปด้วยเสียงหัวเราะพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงให้มากที่สุด

ส่วนความคิดเห็นของผู้ที่เคยมาที่ร้าน Salt&Sun ソルト アンド サン แห่งนี้

“เมนูอาหารที่ร้านนี้อร่อยมากไม่ว่าคุณกินอะไรก็ตาม รวมทั้งเจ้าของร้านและพนักงานในร้านก็บริการลูกค้าด้วยความสุภาพส่วนภาพทะเลโอค็อตสค์ที่มองจากหน้าต่างก็ชวนให้รู้สึกถึงความอ่อนโยนเช่นกัน”

“ฉันคิดว่านี่เป็นวันหยุดที่มีความสุข! อาหารที่ทำให้สุขภาพดีและของหวานที่ทำแบบโฮมเมดสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่น!”

“ทั้งขนมปังและเค้กอร่อยมาก นอกจากนี้ถ้วยชามที่ทางร้านใช้ก็น่ารักมาก การตกแต่งภายในร้านเงียบสงบเหมือนเป็นฐานลับ เป็นการใช้ประโยชน์จากข้าวของเครื่องใช้แบบโบราณได้อย่างลงตัว”

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักที่นี่ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คิดเหมือนกันว่าการออกเดินทางไปผจญภัยในที่ใหม่ๆ บนโลกใบนี้ ที่ซึ่งทำให้เราค้นพบสถานที่พักใจ เยียวยา ซ่อมแซม ขัดเกลาตัวเราได้ และมันก็เป็นเสน่ห์มากพียงพอให้เราเลือกจะออกเดินทางผจญภัยไปเรื่อยๆ ไม่ว่าฤดูกาลจะเปลี่ยนผ่านไปยังไง เราก็อยากมีสถานที่อบอุ่นปลอดภัยไว้เยียวยาใจอยู่เสมอ…

ร้าน ソルト アンド サン Salt&Sun
พิกัดนี้ค่ะ https://goo.gl/maps/wqNVLZ8ijY5XRQL37
เวลาทำการคือ 10.30-15.00 น. (L.O.14.00 น.) พื้นที่แกลเลอรี่ชั้น 1 เปิดให้บริการเฉพาะในช่วงกิจกรรม
วันหยุด: วันเสาร์, อาทิตย์ และวันจันทร์
การเดินทาง: 5 นาทีโดยรถยนต์จากสถานี JR Abashiri (มีบริการที่จอดรถ)

เข้าไปทำความรู้จักคาเฟ่แสนอบอุ่นวิวทะเลร้านนี้ได้จากที่นี่ค่ะ

https://saltandsunabashiri.wixsite.com/
https://www.facebook.com/profile.php?id=100063526782367

สามารถติดตามเรื่องราวน่ารักๆ และสร้างแรงบันดาลใจในชีวิตอื่นๆ ได้จากช่องทางนี้นะคะ
HTTPS://WWW.FACEBOOK.COM/JAPANBROCHURE/