5 วัน 4 คืน Road trip โทโฮคุตอนเหนือ ตอนที่ 3

Road trip

สวัสดีค่ะ สำหรับบทความตอนที่ 3 นี้ เป็นบทความสุดท้ายของทริปนี้แล้วนะคะ เรามาเริ่มต้นเช้าวันที่ 4 กันที่ยามะโนะคะมิ อนเซ็น เบชโช เซริวคัง (Yamanokami Onsen Bessho Seiryukan) มื้อเช้าอลังการกว่าที่คิดไว้มากๆ ก่อนขึ้นรถเดินทางต่อทางโรงแรมก็มีเซอร์ไพรส์สุดท้ายให้กับผู้เข้าพักทุกคน นั่นคือครัวซองต์ไว้ทานเล่นระหว่างเดินทาง พนักงานแอบกระซิบบอกว่าของฝากนี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วยนะคะ


โรงงานเครื่องเหล็กอิวาชูนัมบุ (Iwachu Nambu Cast Iron)

สถานที่แรกของวันนี้คือโรงงานเครื่องเหล็กอิวาชูนัมบุ (Iwachu Nambu Cast Iron) คิดว่าเพื่อนๆ คงผ่านตากาต้มน้ำเหล็กของญี่ปุ่นมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่จะมีใครทราบไหมคะว่าต้นกำเนิดของงานเครื่องเหล็กนัมบุนี้มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปีมาแล้ว เครื่องเหล็กนัมบุนั้นมีถิ่นกำเนิดที่เมืองโมริโอกะ (Morioka) และเมืองโอชู (Oshu) ของจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) โดยน้ำที่ถูกนำมาต้มในกาน้ำเหล็กนี้จะให้สัมผัสที่ไหลลื่น และมีรสชาติกลมกล่อม เนื่องจากในกาต้มน้ำนั้นมีส่วนผสมของธาตุเหล็กที่สามารถสลายตัวออกมาเมื่อโดนน้ำร้อน จึงเหมาะสำหรับสตรี และท่านที่เป็นโรคโลหิตจางโดยเฉพาะ

วันนี้โนมีโอกาสมาเยี่ยมชมโรงงานอิวาชู (Iwachu Nambu Cast Iron)  เป็นโรงงานเครื่องเหล็กนัมบุที่ตั้งอยู่ในเมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ที่นี่จัดแผนผังของโรงงานให้คล้ายกับการไปเที่ยวสวนสนุก โดยสามารถเยี่ยมชมกระบวนการผลิตได้อย่างใกล้ชิดโดยที่ไม่เสียค่าเข้าชม อีกทั้งยังมีแกลลอรี่สินค้าที่หลากหลาย อาทิ กาน้ำ กระทะ หม้อสุกี้ยากี้ กระดิ่งลม ที่เขี่ยบุหรี่ ทั้งนี้อยากให้เพื่อนๆ ลืมภาพเก่าๆ ว่ากาน้ำเป็นสีดำแบบโบราณไปเลยนะคะ เพราะที่นี่พัฒนา และออกแบบสินค้าให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ เช่น ปรับให้ใช้งานได้กับเตาทุกชนิด อีกทั้งยังมีการแต่งแต้มสีสันที่หลากหลาย และมีรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้นด้วยค่ะ

วลาเปิดทำการ : 08:30 – 17:30 น. (ร้านขายของฝาก)

วันหยุด : วันอังคาร , 31 ธันวาคม และ 1 มกราคมของทุกปี

ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://iwachu.co.jp

พิกัดของโรงงานเครื่องเหล็กอิวาชูนัมบุ :  https://g.page/iwachu?share


สวนซากปราสาทโมริโอกะ (Morioka Castle Ruins Park)

หลังจากเที่ยวชมโรงงานแล้ว เรามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองโมริโอกะ (Morioka) เพื่อเดินเล่น และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนซากปราสาทโมริโอกะ (Morioka Castle Ruins Park) แต่เดิมที่นี่เป็นที่ตั้งของปราสาทโคซุคาตะ (Kozukata Castle) เป็นปราสาทของผู้ครองแคว้นตระกูลนัมบุ สร้างเมื่อปีค.ศ.1597 หลังสงครามโบชินได้สิ้นสุดลง (ปีค.ศ.1869) และในปีค.ศ.1871 รัฐบาลเมจิพยายามรวบรวมอำนาจให้เป็นปึกแผ่น จึงทยอยทำลายปราสาทต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงปราสาทแห่งนี้ก็ถูกทำลายลงเมื่อปีค.ศ.1874 เหลือไว้เพียงส่วนของป้อมกำแพงหิน หลังจากที่ปล่อยรกร้างมานานกว่า 30 ปี รัฐบาลญี่ปุ่นมีการนำเสนอให้ทำเป็นสวนสาธารณะ ชาวเมืองจึงยื่นเรื่องต่อเทศบาลเมืองให้มาช่วยปรับปรุง โดยมีนักออกแบบสวนที่ชื่อว่า ยาสุเฮอิ นางาโอกะ (Yasuhei Nagaoka) มาช่วยออกแบบให้ จนในที่สุดสวนนี้ก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการในปีค.ศ.1906 และใช้ชื่อว่า “สวนอิวาเตะ” (Iwate Park) ตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา

ปัจจุบันที่นี่เป็นที่รู้จักในนามของ “สวนซากปราสาทโมริโอกะ” (Morioka Castle Ruins Park) อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยอันดับสวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกด้วย สวนสาธารณะแห่งนี้มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มสวน ส่วนในฤดูฝนก็จะมีดอกไฮเดรนเยียหลากสีสันให้ชม ในฤดูใบไม้ร่วงก็จะพบกับใบเมเปิ้ล และใบแปะก๊วยแต่งแต้มสีแดงเหลืองไว้อย่างสวยงาม และในฤดูหนาวที่นี่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโมริโอกะที่ไม่อยากให้พลาดการเข้าชมเลยล่ะค่ะ ครั้งนี้เราเน้นถ่ายรูปที่บ่อน้ำคาเมะกะอิเคะ (Kamegaike) ข้างปราสาทเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่แนะนำสำหรับการมาเยือนช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเลยค่ะ

เวลาเปิดทำการ : 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ฟรี

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.moriokashiroato.jp

พิกัดของสวนซากปราสาทโมริโอกะ : https://maps.app.goo.gl/3SJnhvy9wY2P7eHZ9


ร้านวะกะนะ สาขาหลัก (Wakana Honten)

หลังจากเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีจนหนำใจแล้ว เราเดินจากสวนซากปราสาทโมริโอกะมาประมาณ 10 นาที เพื่อมารับประทานมื้อเที่ยงวันนี้ ที่ร้านวะกะนะ (Wakana) ซึ่งเป็นร้านเทปปังยากิที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ซึ่งมีทั้งหมด 2 สาขาด้วยกัน คือ ร้านสาขาหลักตั้งอยู่ที่เมืองโมริโอกะ (Morioka) และร้านสาขาเมืองคิตะคามิ (Kitakami) โดยคอนเซ็ปต์ของร้านนี้คือ การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีในท้องถิ่นที่มีตามฤดูกาลนั้นๆ มาปรุงอาหารเพื่อชูรสความอร่อยของวัตถุดิบนั้นๆ ให้ได้มากที่สุด และต้องการให้ลูกค้าได้รับความเพลิดเพลินจากระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในขณะที่นั่งรับประทานอาหาร ไปพร้อมกันด้วยค่ะ

รูป – การตกแต่งจานอาหารให้ออกมาสวยงาม และเห็นลีลาของเชฟขณะปรุงอาหาร

รส – พยายามชูรสธรรมชาติของวัตถุดิบให้มากที่สุด

กลิ่น – การใช้เตาเทปปันปรุงต่อหน้าลูกค้าในระยะใกล้ ทำให้ได้กลิ่นหอมโชยมาเตะจมูก

เสียง – ทั้งเสียงจากการสนทนากับเชฟ เสียงของการปรุงอาหาร และเสียงดนตรีที่เปิดคลอ

สัมผัส – เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนลิ้นแถมยังมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม

วันนี้เราเลือกรับประทานคอร์สอาหารกลางวันประจำเดือนเป็นคอร์ส B ซึ่งทางร้านเสิร์ฟเมนูสเต๊กเนื้อวากิวพันธุ์อิวาเตะเขาสั้น (มีขนาด 70 กรัม โดยเชฟจะเป็นผู้เลือกส่วนของเนื้อให้ ราคา 4,070 เยน และไม่ต้องแปลกใจหากสั่งสเต๊กมา แต่ทางร้านไม่มีมีด และส้อมมาให้ เนื่องจากที่ร้านนี้เน้นการใช้ตะเกียบ ดังนั้นเชฟจึงจะหั่นเนื้อมาให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำพร้อมรับประทาน ส่วนเพื่อนๆ ท่านใดที่ไม่รับประทานเนื้อวัว สามารถเลือกทานเมนูอื่นๆ ได้ อย่างเช่น เมนูอาหารทะเล เป็นต้น

เวลาเปิดให้บริการ :

มื้อเที่ยง : ตั้งแต่เวลา 11:30 – 15:00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 14:00 น.)

มื้อค่ำ : ตั้งแต่เวลา 17:00 – 21:45 น. (สั่งอาหารได้ถึง 20:30 น.)

(ทั้งนี้อาจปิดให้บริการเร็วตามสถานการณ์ในวันนั้นๆ)

วันหยุด : รายละเอียดตามที่ลงในเว็บไซต์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://wakanagroup.co.jp/honten/

พิกัดของร้านวะกะนะ สาขาหลัก : https://maps.app.goo.gl/Pp4ZYkh7PFu9JXXd7


ห้างเฟซันใหญ่ติดสถานีรถไฟโมริโอกะ (Fesan)

ไหนๆ ก็ได้เข้ามาในเมืองใหญ่แล้ว บ่ายนี้ขอแวะเดินช็อปปิ้งดูข้าวของเพลินๆ พร้อมกับซื้อของฝากกลับไปให้ครอบครัวที่ห้างเฟซัน (Fesan) ตั้งอยู่เมืองโมริโอกะ (Morioka) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) บริเวณทางเข้าจะมีล็อกเกอร์ที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจ เพราะแตกต่างจากที่อื่น ตรงที่มีการวาดลวดลายเกี่ยวกับท้องถิ่นในจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) โดยแยกเป็นหมวดต่างๆ เช่น ของกินขึ้นชื่อ ขนมชื่อดัง สถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงตำนานต่างๆ รูปภาพเหล่านี้ช่วยให้การเลือกซื้อของฝากง่ายขึ้นเยอะ เผื่อใครนึกไม่ออกสามารถลอกการบ้านได้เลยนะคะ

ร้านแรกที่เราไป คือร้านไซโตเซกะ (Saito seika) เป็นร้านที่ขายขนมไข่ของนกนางนวล (Kamome no Tamago) ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่ออันดับ 1 ของจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ต้นกำเนิดของร้านนี้อยู่ที่เมืองโอฟุนะโตะ (Ofunato) ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเล ต่อมาเราแวะที่ร้านอิวาเตะยะ (Iwateya) เพื่อซื้อขนมนัมบุเซมเบะ (Nambusembei) เป็นขนมกรอบพื้นเมืองที่ทำจากแป้งสาลี น้ำ และเกลือ สูตรดั้งเดิมจะมี 2 ชนิด คือโรยหน้าด้วยงาดำ หรือ ถั่วลิสง ส่วนในปัจจุบันมีหลากหลายให้เลือกมากขึ้น เช่น แอปเปิ้ลแห้ง เมล็ดฟักทอง ปลาหมึกย่าง เป็นต้น ปิดท้ายที่ร้านอิโระโตะอิโระ (Iro to iro) เป็นร้านที่ขายของฝากขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุด้วยค่ะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://fesan-jp.com

พิกัดของห้างเฟซันใหญ่ติดสถานีรถไฟโมริโอกะ : https://goo.gl/maps/jz82Y5sdeGtoezXq8


ฟาร์มสเตย์ ฟาร์มอินน์ มิโดริโนะคะเซะ (Farm inn midori no kaze)

ที่พักในญี่ปุ่นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เรียวกัง โฮมสเตย์ แกลมปิ้ง คืนนี้โนเลือกพักแบบฟาร์ม สเตย์ซึ่งเป็นที่พักอีกหนึ่งรูปแบบที่กำลังเป็นที่นิยมกัน เพราะเราจะได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ อย่างใกล้ชิด โดยฟาร์มสเตย์แห่งนี้มีชื่อว่า ฟาร์มอินน์ มิโดริโนะคะเซะ (Farm inn midori no kaze) ตั้งอยู่ที่เมืองเซ็มโบะคุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นบ้านสไตล์คอทเทจ 2 ชั้น ชั้นล่างมีห้องครัว ห้องโถงซึ่งเป็นที่รับประทานอาหาร ห้องอาบน้ำ และ ห้องที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ สามารถปูฟูกฟุตงนอนได้ ส่วนชั้นบนมีห้องนอนอีก 2 ห้อง โดยมีเตียงนอนทั้งหมด 7 เตียง ในส่วนของห้องน้ำมีทั้งชั้นล่าง และชั้นบน เห็นอย่างนี้ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าบ้านหลังนี้ จะสร้างมาราวๆ 20 ปีแล้วนะคะ

สำหรับเมนูอาหารที่นี่เจ้าของบ้านจะปรุงด้วยผัก และวัตถุดิบประจำฤดูกาลในท้องถิ่นด้วย ส่วนมื้ออาหารค่ำตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนกันยายน เมนูหลักจะเป็นผักป่า และผักที่ปลูกเองในสวน ส่วนตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนเมษายน เมนูหลักจะเป็นหม้อไฟคิริทัมโปะ (Kiritanpo) ใส่ไก่บ้านฮิไน (Hinai Chicken) เมนูขึ้นชื่อในจังหวัดอาคิตะ (Akita) นี่เองค่ะ

นอกจากเป็นที่พักแล้ว ที่นี่ยังสามารถเลือกทำกิจกรรมเวิร์กช็อปที่หลากหลาย และแตกต่างกันไปตามฤดูกาล อย่างเช่น การเก็บผักสดๆ มาปรุงอาหารในช่วงฤดูร้อน ทำลูกพลับตากแห้งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และเล่นกระดานเลื่อนหิมะในฤดูหนาว ส่วนการทำเมนูคิริทัมโปะ (Kiritanpo) ย่างนั้นสามารถทำได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ

เนื่องจากคุณลุงเจ้าของบ้านเป็นช่างไม้คาบะไซคุ (Kaba Zaiku) คุณลุงจะนำเปลือกของต้นยามะซากุระมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น กระปุกใส่ใบชา กระปุกใส่เมล็ดกาแฟ เกี๊ยะไม้ และที่รองแก้ว ทั้งนี้หากใครสนใจสามารถเรียนทำที่รองแก้วเป็นรูปน้องหมาพันธุ์อาคิตะ และน้องแมวสามสีได้ที่ฟาร์มสเตย์นี้ด้วยนะคะ

ราคาที่พัก :

ผู้ใหญ่

1 คืนพร้อมอาหาร 2 มื้อ 7,700 เยน++

1 คืนพร้อมอาหารเช้า 6,600 เยน++

1 คืน ไม่รวมอาหาร 5,500 เยน++

เด็ก (3ขวบขึ้นไป)

1 คืนพร้อมอาหาร 2 มื้อ 5,500 เยน++

1 คืนพร้อมอาหารเช้า 4,400 เยน++

1 คืน ไม่รวมอาหาร 3,300 เยน++

ทั้งนี้ราคาที่พักและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา กรุณาโทรสอบถามอีกครั้ง

สิ่งอำนวยความสะดวก :

ไวไฟ ไดร์เป่าผม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไม่รวมชุดนอนเซ็ตแปรงฟัน และครีมล้างหน้านะคะ

ราคาเวิร์กช็อป :

เริ่มต้นที่ 1,500 เยน ต้องแจ้งล่วงหน้าตอนจองที่พัก

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.tuneyasu.com

พิกัดของฟาร์มสเตย์ ฟาร์มอินน์ มิโดริโนะคะเซะ : https://goo.gl/maps/sg5MS78uWG2Ea9JB9


เกสต์เฮาส์น้องหมาอาคิตะ (Guest house ENISHI)

เช้าวันถัดมามีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะแนะนำเมื่อมีโอกาสมาเยือนจังหวัดอาคิตะ (Akita)  นั่นคือ หมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District) เมืองเซ็มโบะคุ (Semboku) เขตคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate) เป็นหมู่บ้านที่ถูกอนุรักษ์ไว้เนื่องจากเมื่อหลายร้อยปีก่อน พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นบ้านของซามูไร แต่ในปัจจุบันลูกหลานรุ่นหลังๆ ยังคงอาศัยอยู่ และบางหลังเปิดให้เข้าไปชมข้าวของเครื่องใช้ และวิถีชีวิตของซามูไรในสมัยก่อนด้วย

ไฮไลท์วันนี้อยู่ที่เกสต์เฮาส์เอนิชิ (ENISHI) เป็นเกสต์เฮาส์ที่ทำการรีโนเวทบ้านเก่าอายุ 50 ปี ที่อยู่บริเวณใจกลางหมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District) โดยคอนเซ็ปต์ของที่พักนี้ คืออยากให้ผู้ที่เข้าพักได้สัมผัสกับบรรยากาศรอบๆ หมู่บ้านโบราณ และได้ใกล้ชิดกับน้องหมาพันธุ์อาคิตะ ซึ่งเป็นน้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดในจังหวัดนี้ด้วย หากใครเป็นผู้ที่เข้าพักในเกสต์เฮาส์อยู่แล้วก็สามารถพาไปเดินเล่นช่วงเย็น หรือเช้าวันถัดไปก่อนเช็คเอาท์ได้ และสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เข้าพักที่นี่ และอยากจะเดินเล่นกับน้องหมาบ้าง ก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ เพราะตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา ทางที่พักได้มีบริการรูปแบบใหม่ โดยจัดเป็นคอร์สพาสุนัขพันธุ์อาคิตะเดินเล่นรอบหมู่บ้านซามูไรคะคุโนะดาเตะ ทั้งนี้ระหว่างที่พาไปเดินเล่น จะมีเจ้าของเกสต์เฮาส์เดินไปเป็นเพื่อน และจะช่วยแนะนำจุดถ่ายรูปต่างๆ ให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ และเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบสุนัขพันธุ์อาคิตะ ต้องมีความสุขมากๆ เลยล่ะคะ

ราคาที่พัก :

ราคาเฉพาะที่พัก ท่านละ 5,000 – 7,500 เยน

สำหรับวันที่เปิดให้บริการสามารถ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://enishimusubi.com

พิกัดของเกสต์เฮาส์น้องหมาอาคิตะ : https://goo.gl/maps/pWdQqndMnWCLkoDt7

ราคาคอร์สจูงน้องหมาเดินเล่น :

ช่วงเวลาที่สามารถจองได้ : 10:30 – 14:30 น.

30 นาที   2,000 เยน

1 ชั่วโมง 3,000 เยน

สามารถจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ด้านล่าง โดยจองอย่างช้า12:00 ก่อนวันที่จะจูง 1 วัน

https://www.asoview.com/item/activity/pln3000035615/


ตลาดชุมชนเมืองอาคิตะ (Akita Citizen’s Market)

ทุกครั้งที่ออกเดินทางท่องเที่ยว โนชอบไปเดินตลาดของเมืองนั้นๆ เพราะตลาดเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในเมืองต่างๆ ว่าเขากินอยู่กันอย่างไร วันนี้หลังจากที่พาน้องหมาไปเดินเล่นเสร็จแล้ว เรามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองอาคิตะ (Akita) โดยไปที่ตลาดชุมชนเมืองอาคิตะ (Akita Citizen’s Market) ตลาดนี้เปิดตั้งแต่ตี 5 ถึง 6 โมงเย็น ตลาดค่อนข้างใหญ่ และแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่น โซนผักผลไม้ โซนอาหารทะเล โซนดอกไม้ รวมไปถึงโซนร้านอาหาร เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบจบทุกอย่าง

เวลาเปิดทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์

ตั้งแต่เวลา 05:00 – 18:00 น. (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.akitashiminichiba.com

พิกัดของตลาดชุมชนเมืองอาคิตะ : https://goo.gl/maps/1Nx3jUtUjjc4A3Th9


ร้านต้นตำรับอินานิวะ อุด้ง (Sato Yosuke Shoten)

อาหารเส้นยอดนิยมห้ามพลาดของจังหวัดอาคิตะ (Akita) คือ อินานิวะ อุด้ง (Inaniwa Udon) เอกลักษณ์ของอุด้งนี้จะเล็ก แบน และมีความเหนียวหนึบหนับ มองเผินๆ รูปร่างของเส้นอุด้งนี้จะคล้ายกับเส้นขนมจีนที่บ้านเรา ซึ่งกระบวนการผลิตเส้นนั้นใช้เวลาราวๆ 3 วันเต็ม เนื่องจากทุกขั้นตอนต้องใช้เวลา และเน้นนวดแป้งด้วยมือแบบแฮนด์เมดที่แท้จริง สำหรับร้านที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ นั่นคือร้านซะโตะ โยสุเคะ โชเท็น (Sato Yosuke Shoten) โดยคุณซะโตะ คิชิซะเอะมง (Sato (Inaniwa) Kichizaemon) เป็นเจ้าของร้านรุ่นแรก และเป็นผู้คิดค้นเทคนิคการทำเส้นอินานิวะ อุด้ง เป็นคนแรกในปีค.ศ.1665 สมัยเริ่มแรกไม่สามารถผลิตได้ในจำนวนมาก จึงทำให้บุคคลทั่วไปหามารับประทานได้ค่อนข้างยาก จึงถือว่าเป็นอาหารชั้นสูงสำหรับใช้ถวายให้กับจักรพรรดิ หรือเหล่าขุนนางเท่านั้น

ในปัจจุบันสามารถผลิตเส้นอินานิวะ อุด้งในปริมาณมากขึ้น จึงสามารถหามารับประทานได้ตลอดปี สำหรับเมนูจะมีทั้งแบบเย็น และแบบอุ่น พร้อมทั้งยังมีชุดที่เสิร์ฟคู่กับแกงเขียวหวาน และต้มยำกุ้งน้ำข้นอีกด้วย รสชาติเหมือนรับประทานขนมจีนแกงเขียวหวานในรูปแบบของเส้นญี่ปุ่น ถือว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับยุคสมัย ร้านซะโตะ โยสุเคะ โชเท็น (Sato Yosuke Shoten) แห่งนี้ก็มีหลายสาขาทั่วประเทศ หากมีโอกาสผ่านมาที่จังหวัดอาคิตะ (Akita) อยากให้เพื่อนๆ มาลองรับประทานกันดูนะคะ

ซึ่งสาขาที่โนไปในครั้งนี้ คือ ร้านซะโตะ โยสุเคะ โชเท็น (Sato Yosuke Shoten) สาขา Sato Yosuke Akita ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า Seibu Akita ชั้น B1 ค่ะ

เวลาเปิดทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันหยุดของห้าง

ตั้งแต่เวลา 11:00 – 21:00 น. (L.O. 20:00)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.sato-yoske.co.jp

พิกัดของร้านต้นตำรับอินานิวะ อุด้ง (Sato Yosuke Shoten) : https://g.page/satoyosuke-akita-inaniwaudon?share


หลังจากรับประทานอินานิวะ อุด้ง เสร็จแล้ว ได้เวลาเดินทางกลับโตเกียว โดยสามารถเดินทางกลับโดยเครื่องบินจากสนามบิน อาคิตะ (Akita Airport) หรือจะกลับโดยรถไฟชินคันเซ็นก็ได้นะคะ แต่วันนี้โนเลือกเดินทางกลับโดยรถไฟจากสถานีอาคิตะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง นั่งชมวิวเพลินๆ ก็ถึงแล้วค่ะ

สำหรับทริปโทโฮคุตอนเหนือ 5 วัน 4 คืนในครั้งนี้โนมีความประทับใจมากเลยค่ะ ขนาดว่าโนเองก็แต่งงานมาใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดอิวาเตะหลายปีแล้ว ก็ยังมีหลายสถานที่ที่ยังไม่เคยไป ซึ่งพอไปแล้วก็ชอบมากๆ แถมในทริปนี้ยังได้เก็บภาพบรรยากาศช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม อีกทั้งอาหารการกินก็สดและอร่อย ส่วนการแช่อนเซ็นนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะแต่ละสถานที่นั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นยังเป็นทริปที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งคนที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ สายรักษ์โลก สายที่ชอบเรื่องวัฒนธรรม และใกล้ชิดกับผู้คนในท้องถิ่น สายชอบเที่ยวสถานที่ลึกลับน่าค้นหา และสายที่ชื่นชอบการพักผ่อนนอนอนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นด้วย

ยังไงหลังจากเปิดประเทศแล้ว โนอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ มาเที่ยวโทโฮคุตอนเหนือกันดูนะคะ จะต้องเป็นทริปเที่ยวญี่ปุ่นอีกหนึ่งทริป ที่สร้างความทรงจำที่ดีให้กับทุกคนอย่างแน่นอนเลยค่ะ

ประเทศญี่ปุ่นยังมีอีกหลายสถานที่น่าเที่ยว และรอการไปเยือนของเพื่อนๆ ทุกคนอยู่นะคะ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค่า


สามารถดูทริป 5 วัน 4 คืน Road trip โทโฮคุตอนเหนือ ตอนที่ 1 และ 2 ได้จากลิ้งค์ด้านล่างนี้ค่ะ
ตอนที่ 1
https://www.jpsimplelife.com/road-trip-of-tohoku-autumn/

ตอนที่ 2
https://www.jpsimplelife.com/road-trip-of-tohoku-autumn2/